SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 114
Baixar para ler offline
๑ 
คู่มือ 
การจัดการองค์ความรู้ 
เพื่อการปฏิบัติงานส่งกาลังสาย พลาธิการ 
สู่ความเป็นเลิศ 
โดย 
กรมพลาธิการทหารบก 
พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘
๒ 
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ 
เพื่อการปฏิบัติงานส่งกาลังสายพลาธิการ สู่ความเป็นเลิศ 
๑. ส่วนการส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ สายพลาธิการ 
บทที่ ๑ กล่าวนา หน้า ๓ 
บทที่ ๒ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการส่งกาลัง ๙ 
บทที่ ๓ การส่งกาลัง สป.๑ 
ตอนที่ ๑ ระเบียบปฏิบัติในยามปกติ ๑๑ 
ตอนที่ ๒ ระเบียบปฏิบัติในสนาม ๑๗ 
บทที่ ๔ การส่งกาลัง สป.๓ ๒๓ 
บทที่ ๕ การส่งกาลัง สป.๒-๔ สายพลาธิการ ๓๗ 
บทที่ ๖ การส่งกาลัง สป. ทางอากาศ ๔๖ 
บทที่ ๗ การซ่อมบารุงสาย พธ. 
ตอนที่ ๑ ระเบียบปฏิบัติในยามปกติ ๖๕ 
ตอนที่ ๒ ระเบียบปฏิบัติในสนาม ๖๙ 
บทที่ ๘ การจัดซื้อและจ้าง ๗๑ 
๒. ส่วนการศึกษา รร.พธ.พธ.ทบ. หน๎า ๘๑ 
นโยบายและการดาเนินการตามแผนงานโครงการ 
๓. ส่วนวิจัยและพัฒนา หน๎า ๘๗ 
โครงการพัฒนาคุณสมบัติผ้าสีพราง (สาหรับตัดเครื่องแบบสนาม ) 
ของกรมพลาธิการทหารบก ด้าน การต้านการยับ/ด้านการทนไฟ 
และการป้องกันการตรวจจับด้วยกล้องตรวจ -การณ์กลางคืน
๓ 
บทที่ ๑ 
๑. กลำวนา 
สืบเนื่องจากพระราชกฤษฎีกาวำด๎วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ๎านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๔๖ 
มาตรา๑๑กาหนดไว๎วำ “สํวนราชการมีหน๎าที่พัฒนาความรู๎ในสํวนราชการเพื่อให๎มีลักษณะเป็นองค์กรแหํงการ 
เรียนรู๎อยำงสงำเสมอโดยต๎องรับรู๎ข๎อมูลขำวสารและสามารถประมวลผลความรู๎ในด๎านตำงๆ เพื่อนามาประยุกต์ 
ใช๎ในการปฏิบัติราชการได๎อยำงถูกต๎องรวดเร็วและเหมาะสมตํอสถานการณ์รวมทั้งต๎องสํงเสริมและพัฒนา 
ความรู๎ความสามารถสร๎างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข๎าราชการในสังกัดให๎เป็นบุคลากรที่มี 
ประสิทธิภาพ และมีการเรียนรู๎รํวมกันทั้งนี้จึงได๎นาการจัดการความรู๎(Knowledge Management) มาเป็น 
เครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรของกรมพลาธิการทหารบกและได๎สนับสนุนให๎ทุกหนํวยมีการจัดการ 
ความรู๎อยำงเป็นระบบเพื่อชํวยในการพัฒนาขีดความสามารถของกาลังพลโดยให๎หนํวยตำงๆดาเนินการตาม 
แนวทางและแผนงานการจัดความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก เพื่อให๎ กรมพลาธิการทหารบก เป็นองค์กร 
แหํงการเรียนรู๎เป็นที่มาขององค์ความรู๎ (Knowledge) และนวัตกรรม (Innovation) ที่จะชํวยให๎การ 
ปฏิบัติงานตามพันธกิจที่ กรมพลาธิการทหารบกรับผิดชอบมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงขึ้นและยังเป็น 
การเพิ่มขีดความสามารถ/ขีดสมรรถนะของ กรมพลาธิการทหารบก 
๒. แนวทางการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกแนวทางในการจัดการความรู๎สอดคล๎องกับแนวทาง 
และแผนงานการจัดการความรู๎ของทบ. ซึ่งกาหนดขั้นตอนการดาเนินการตั้งแตํปี๒๕๕๖-๕๘โดยมีแนวทางการ 
จัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกดังนี้ 
๒.๑ แตํงตั้งคณะกรรมการการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกโดยมี จก.พธ.ทบ. และ 
คณะกรรมการการจัดการความรู๎ของ พธ.ทบ.มีหน๎าที่ในการกาหนดแผนกลยุทธ์ในการดาเนินการจัดการความรู๎ 
ของ พธ.ทบ. เพื่อให๎การดาเนินการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกประสบผลสาเร็จเป็นรูปธรรมตาม 
นโยบายของผบ.ทบ. รวมทั้งอานวยการและกากับดูแลการดาเนินการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก 
ให๎เป็นไปตามเปูาหมายของแผนกลยุทธ์การจัดการความรู๎ที่กาหนด 
๒.๒ จัดการบรรยายเชิงวิชาการสามารถเพิ่มศักยภาพในการทางานให๎แกํองค์กรเพื่อให๎คณะกรรมการ 
จัดการความรู๎และกาลังพลของ กรมพลาธิการทหารบกมีความรู๎ความเข๎าใจในหลักการของ การจัดการความรู๎ 
และประสบการณ์ในการนามาปฏิบัติได๎รับทราบปัญหาตำงๆในการดาเนินการ และแนวทางในการแก๎ไขปัญหา 
๒.๓ ระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการการจัดการความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก เพื่อกาหนดแผนกล 
ยุทธ์การจัดการความรู๎โดยนาความรู๎และประสบการณ์ที่ได๎รับจากการฟังบรรยายมาประยุกต์ให๎เหมาะสมกับ 
ภารกิจลักษณะงานประเภทความรู๎และระบบการทางานของกรมพลาธิการทหารบก 
๒.๔ กาหนดวิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก ประเมินตนเองและวิเคราะห์ 
ปัจจัยตำงๆที่เกี่ยวข๎องกับการจัดการความรู๎ (SWOT Analysis) เพื่อให๎ทราบจุดแข็ง-จุดอํอน / โอกาส- 
อุปสรรค ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญในการจัดทาแผนกลยุทธ์ และความสาเร็จในการดาเนินการจัดการความรู๎ให๎ 
บรรลุผลตามวิสัยทัศน์และเปูาหมายของการจัดการความรู๎ 
๒.๕ ผู๎บังคับบัญชาทุกระดับของ กรมพลาธิการทหารบก จะรํวมกันผลักดันให๎เกิดการบูรณการของ 
กระบวนการจัดการความรู๎ (KM Process) ทั้งหมดให๎ยึดถือปฏิบัติและซึมทราบอยูํในกระบวนการทางาน 
(Work Process) รวมถึงบูรณการกระบวนการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management 
Process) ให๎เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานเพื่อให๎กรมพลาธิการทหารบกเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ที่ยั่งยืนตลอดไป
๔ 
๓. ขอบเขตและเปูาหมายการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก 
การจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกมีขอบเขตความรู๎เกี่ยวกับการปฎิบัติงานสํงกาลังสาย 
พลาธิการมุํงความเป็นเลิศ ได๎แกํ การสํงกาลังและบริการ งานซํอมบารุงการบริหารจัดการสํงกาลัง การฝึก 
ศึกษาและตาราเรียนระบบการสํงกาลัง และเทคโนโลยีโดยมีเปูาหมายอยูํที่การรวบรวมกลั่นกรองและเผยแพรํให๎ 
คาแนะนามาตรฐานและข๎อกาหนดในการควบคุมคุณภาพเอกสารและบทความทางวิชาการที่เกี่ยวข๎องกับการ 
ปฏิบัติงานของหนํวยตำงๆในกรมพลาธิการทหารบก 
๓.๑ เปูาหมายการจัดการความรู๎ 
. ๓.๑.๑ เพื่อพัฒนาระบบงานของกรมพลาธิการทหารบกให๎มีประสิทธิภาพประสิทธิผลและใช๎ 
เครือขำยเป็นศูนย์กลางชํวยเพิ่มประสิทธิภาพการปฎิบัติหน๎าที่ขององค์กร 
๓.๑.๒ เพื่อพัฒนาศักยภาพกาลังพลของกรมพลาธิการทหารบกให๎สามารถทางานอยำง 
ผู๎รู๎จริงพัฒนาระบบและกระบวนการในการทางาน 
๓.๑.๓ เพื่อพัฒนากาลังพลของกรมพลาธิการทหารบกให๎เป็นผู๎รักการเรียนรู๎เป็นผู๎ใฝุรู๎ มีความ 
กระตือรือร๎นที่จะเรียนรู๎สิ่งใหมํๆ 
๓.๑.๔ เพื่อพัฒนากรมพลาธิการทหารบกให๎เป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎มีฐานความรู๎สาหรับ 
เผยแพรํและแลกเปลี่ยนเรียนรู๎รํวมกัน 
๓.๒ วิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ 
“มุํงบริหารจัดการองค์ความรู๎พัฒนาเครือขำยและศูนย์กลางการเรียนรู๎โดยใช๎วิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสม 
เพื่อความเป็นเลิศด๎านการสํงกาลังสายพลาธิการและบริการ อยำงยั่งยืน” 
๔. การวิเคราะห์ SWOT ANALYSIS 
เป็นการวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอํอน/ โอกาส-อุปสรรคที่เกี่ยวข๎องกับการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการ 
ทหารบกซึ่งจะเป็นปัจจัยสาคัญและมีผลตํอการจัดทาแผนกลยุทธ์และความสาเร็จในการจัดการความรู๎ 
จุดแข็ง (S - Strengths) 
- ผู๎บังคับบัญชาระดับสูงเห็นความสาคัญและสนับสนุนการจัดการความรู๎ 
- มีบุคลากรที่มีความรู๎ และความเชี่ยวชาญในการสํงกาลังและซํอมบารุงเป็นอยำงดีและเป็นที่ยอมรับ 
ระดับทบ. 
- มีการดาเนินการหลายอยำงที่เป็นสํวนหนึ่งของกระบวนการจัดการความรู๎อยูํแล๎ว 
- พธ.ทบ. เป็นต๎นแบบการสํงกาลังบารุง ซึ่งมีความสาคัญตํอเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ 
- พธ.ทบ.พร๎อมเข๎าสูํประชาคมอาเซียนเป็นแหลํงถำยทอดความรู๎การสํงกาลังสายพลาธิการ 
จุดอํอน (W - Weaknesses) 
- ขาดแดลนบุคลากรด๎านการจัดการองค์ความรู๎ระหวำงหนํวยงาน 
- ระบบราชการทาให๎กาลังพลขาดแรงจูงใจในการพัฒนาความรแู๎ละและขาดความคิดริเริ่ม 
- ไมํมีการดาเนินงานการวิจัยอยำงเป็นรูปธรรม 
- ข๎อจากัดด๎านงบประมาณสนับสนุนการดาเนินกิจกรรมและการจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่อง 
สื่อสารและเครื่องคอมพิวเตอร์ 
- กาลังพลระดับผู๎ปฏิบัติยังขาดความสนใจที่จะแสวงหาความรู๎เพื่อปรับปรุงการทางานของตนเอง 
- ขาดการจัดการฐานข๎อมูลในการสํงกาลังและซํอมบารุง 
- กาลังพลสํวนใหญํยังไมํเข๎าใจและไมํเห็นความสาคัญของการจัดการความรู๎ 
โอกาส (O - Opportunities)
๕ 
- นโยบายกองทัพบกกาหนดให๎หนํวยงานเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ตามพ.ร.ฎ. การบริหารกิจการบ๎านเมือง 
ที่ดีฯ 
- หนํวยงานและองค์กรภายนอกยกยํองให๎กรมพลาธิการทหารบกเป็นหนํวยงานที่มีความสามารถและมี 
ชื่อเสียงในงานสํงกาลังและซํอมบารุง 
- เป็นการดาเนินการที่มุํงไปสูํวิสัยทัศน์ของกองทัพบก และเอื้ออานวยเป็นแหลํงถำยทอดความรู๎สาย พธ. 
- แสวงหาความรํวมมือทางวิชาการกับหนํวยงานภาครัฐและเอกชน งำยตํอการพัฒนาเทคโนโลยีและ 
นวัตกรรม 
อุปสรรค (T - Threats) 
- การเปลี่ยนแปลงผู๎บริหารหรือผู๎บังคับบัญชาทั้งภายในกรมพลาธิการทหารบกทาให๎การผลักดันนโยบาย 
ที่มีผลในการปฏิบัติขาดความตํอเนื่อง 
- ระบบการบริหารงานแบบราชการซึ่งมีสายการบังคับบัญชาที่หำงกันมากทาให๎ขาดความใกล๎ชิดและการ 
สื่อสารระหวำงผู๎บังคับบัญชาผู๎กาหนดนโยบายและกาลังพลผู๎ปฏิบัติ 
- การปฏิบัติตามระเบียบราชการทาให๎การดาเนินการตำงๆขาดความคลํองตัวไมํมีประสิทธิภาพ 
เทำที่ควร 
- บุคลากรที่มีความรู๎ความสามารถลาออกจากราชการไปทางานในภาคเอกชนซึ่งมีแรงจูงใจในการทางาน 
มากกวำ 
- คุณภาพชีวิตในด๎านตำงๆของกาลังพลที่ลดลงมีผลตํอการอุทิศตนให๎กับองค์กรและการพัฒนาการ 
ทางานให๎มีประสิทธิภาพมากขึ้น 
- ระบบเศรษฐกิจไมํเอื้ออานวยในการสํงกาลังบารุง 
STRENGTHS – OPPORTUNITIES (SO) STRATEGY 
นโยบายรัฐบาลที่กาหนดให๎หนํวยงานของรัฐต๎องเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ตามพระราชกฤษฎีกาวำด๎วย 
หลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ๎านเมืองที่ดีฯ ซึ่งผู๎บังคับบัญชาระดับสูงทั้งระดับกองทัพบก และ กรม 
พลาธิการทหารบกได๎ให๎ความสาคัญกับการจัดการความรู๎และการที่กรมพลาธิการทหารบกมีความพร๎อมในด๎าน 
บุคลากรองค์ความรู๎และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในงานสํงกาลัง และซํอมบารุงระบบจัดหายุทโธปกรณ์ และ 
เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งมีการดาเนินการหลายอยำงที่เป็นสํวนหนึ่งของ กระบวนการจัดการความรู๎อยูํแล๎ว จะ 
เป็นปัจจัยสาคัญที่นามาใช๎ในการประเมินตนเองและชี้ให๎เห็นถึงโอกาสของผลสาเร็จในการดาเนินการจัดการ 
ความรู๎กรมพลาธิการทหารบก จะสามารถบรรลุวิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ และเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ที่ 
ยั่งยืน นอกจากนั้นแล๎ว การวิเคราะห์ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่กลำวมาทั้งหมด จะเป็นสํวนสาคัญใน 
การพิจารณากาหนดกลยุทธ์แผนงานและโครงการ/กิจกรรมในการปฏิบัติตำงๆ 
กลยุทธ์ 
๑. ตั้งคณะกรรมการการจัดการความรู๎ ขึ้นรับผิดชอบการดาเนินการการจัดการความรู๎ในด๎านตำง ๆ 
ให๎เป็นไปตามแผนกลยุทธ์การจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก 
๒. สร๎างความรู๎สึกการเป็นเจ๎าของรํวมกันในวิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก 
เพื่อนาไปสูํเปูาหมายเดียวกันในการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก 
๓. ปลุกจิตสานึกของกาลังพลให๎เกิดความรู๎สึกภาคภูมิใจในการเป็นบุคลากรของกรมกรมพลาธิการ 
ทหารบก ซึ่งมีความสามารถและผลงานโดดเดํนในงานสํงกาลังและซํอมบารุง ระบบการจัดหายุทโธปกรณ์ และ 
เครื่องคอมพิวเตอร์มีความมุํงมั่นในการพัฒนากรมพลาธิการทหารบกไปสูํความเป็นเลิศในงานสํงกาลังและซํอม 
บารุง ระบบจัดหายุทโธปกรณ์ และเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อรักษาชื่อเสียงของกรมพลาธิการทหารบก
๖ 
๔. สร๎างกิจกรรมการเรียนรู๎ที่สอดคล๎องกับภารกิจและวิธีปฏิบัติงานของกาลังพล เพื่อนาไปสูํการสร๎าง 
ฐานความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกให๎เกิดผลสาเร็จโดยเร็ว 
๕. ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให๎ทันสมัยและเพียงพอในการสร๎างฐานความรู๎และเครือขำย 
การเรียนรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก และสํงเสริมให๎กาลังพลใช๎เครือขำยการเรียนรู๎ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู๎ 
๖. สร๎างวัฒนธรรมและบรรยากาศการเรียนรู๎ให๎เกิดขึ้นในสภาพแวดล๎อมการทางานของ กรมพลาธิการ 
ทหารบก 
๗. สอดแทรกกิจกรรมการเรียนรู๎ในทุกขั้นตอนของกระบวนการทางาน ในหนํวยงานทุกระดับของกรม 
พลาธิการทหารบก 
๘. กาหนดแผนปฎิบัติและเสนอความต๎องการงบประมาณเพื่อรองรับแผนกลยุทธ์การจัดการความรู๎ของ 
กรมพลาธิการทหารบก มีการติดตามประเมินผลและสัมมนาประจาปีรํวมกันของคณะกรรมการการจัดการความรู๎ 
สรุปผลการดาเนินการในรอบปีที่ผำนมา เพื่อปรับกลยุทธ์และแผนปฏิบัติในรอบปีถัดไปให๎มีประสิทธิภาพ และ 
ประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
๗ 
กรมพลาธิการทหารบก 
วิสัยทัศน์ 
กรมพลาธิการทหารบก เป็นหนํวยงานที่มีความก๎าวหน๎าและเชี่ยวชาญด๎านการจัดซื้อ จัดจ๎าง การสํงกาลังบารุง 
และบริการที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร๎างศักยภาพกาลังพล เพื่อพัฒนากิจการสายพลาธิการ ไปสูํความเป็นเลิศ 
พร๎อมด๎านการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช๎อยำงเหมาะสม 
ภารกิจ 
กรมพลาธิการทหารบก มีหน๎าที่ วางแผน อานวยการ ประสานงาน แนะนา กากับการ ดาเนินการ วิจัยและ 
พัฒนาเกี่ยวกับการผลิต จัดหา สํงกาลัง ซํอมบารุง การบริการ กาหนดหลักนิยมและทาตารา ตลอดจนการฝึก 
และศึกษา ทั้งนี้ เกี่ยวกับกิจการและสิ่งอุปกรณ์ของเหลำทหารพลาธิการ โดยมีขอบเขตความรับผิดชอบและ 
หน๎าที่สาคัญดังนี้.- 
- เสนอนโยบาย วางแผน อานวยการ ประสานงาน แนะนา กากับการเกี่ยวกับการกาหนด 
ความต๎องการ ผลิต จัดหา สํงกาลัง ซํอมบารุง และการบริการสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ 
- ดาเนินการเกี่ยวกับกิจการของเหลำทหารพลาธิการ 
- กาหนดหลักนิยม วิจัย และพัฒนา จัดทาตาราและคูํมือเกี่ยวกับวิทยาการสายพลาธิการ 
- ดาเนินการจัดหา ผลิต และซํอมบารุงสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ 
- วางแผน อานวยการ จัดทาและปรับปรุงหลักสูตร ตลอดจนดาเนินการให๎การศึกษาเหลำ 
ทหารพลาธิการ 
- ดาเนินการเกี่ยวกับสถานพักผํอนตามที่ได๎รับมอบ 
- ดาเนินการเกี่ยวกับการเกษตรกรรมเพื่อสนับสนุนการผลิต และสนับสนุนหนํวยตำงๆ ใน 
กองทัพบกตามที่ได๎รับมอบ 
วัตถุประสงค์ 
- สร๎างความนำเชื้อถือในการให๎การสนับสนุนการสํงกาลังบารุง 
- มุํงเน๎นคุณภาพในทุกรายละเอียดของการสํงกาลังบารุงและบริการ 
- สามารถตรวจสอบข๎อมูลได๎ด๎วยความถูกต๎อง 
- เพิ่มประสิทธิภาพด๎านการบริหารจัดการข๎อมูลขำวสารด๎านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม 
%%%%%%%%%%%%%%%
๘ 
ส่วนการส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ สายพลาธิการ
๙ 
บทที่ ๒ 
การส่งกาลังสายพลาธิการ 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการส่งกาลัง 
๒.๑ ประเภทสิ่งอุปกรณ์ 
สิ่งอุปกรณ์ (Supplies) หมายถึง สิ่งของทั้งปวงที่จาเป็นในการจัดจำยให๎แกํหนํวย ทหารในการดารงอยูํ 
และการปฏิบัติงานของหนํวยทหารนั้น กองทัพบก จึงแบํงสิ่งอุปกรณ์ออกเป็นประเภทตำง ๆ ซึ่งไมํเหมือนกัน 
ระหวำงอุปกรณ์นอกโครงการ และสิ่งอุปกรณ์ในโครงการ 
๒.๑.๑ สิ่งอุปกรณ์นอกโครงการ หมายถึง อุปกรณ์ที่จัดในกองทัพบก นอกเหนือจากโครงการชํวยเหลือ 
ทางราชการจากตำงประเทศ แบํงออกเป็น ๕ ประเภท ดังตํอไปนี้ 
๒.๑.๑.๑ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ได๎แกํเสบียงสาหรับคนและสัตว์ 
๒.๑.๑.๒ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๒ ได๎แกํ (สิ่งอุปกรณ์ตามอัตรา) สิ่งของที่จำยไว๎ประจาหนํวยหรือ 
ประจากาย ตามที่ ทบ. กาหนดไว๎เป็นอัตราจำยให๎แกํหนํวยทหาร โดยระบุไว๎ใน อจย. หรือ อสอ. หรือบัญชีแบํง 
มอบอื่นๆ เชํน อาวุธ ,ยานพาหนะ ,วิทยุ เป็นต๎น 
๒.๑.๑.๓ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๓ ได๎แกํน้ามันเชื้อเพลิงและน้ามันอุปกรณ์ตำง ๆ ที่อยูํในความรับผิดชอบ 
ทางการสํงกาลังของ พธ.ทบ. ซึ่งใช๎เกี่ยวกับยานยนต์เครื่องจักรกล เครื่องบิน เครื่องให๎แสงสวำงและ 
เครื่องให๎ความร๎อน เป็นต๎น 
๒.๑.๑.๔ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๔ ได๎แกํ (สิ่งอุปกรณ์นอกอัตรา) สิ่งอุปกรณ์รายการที่ ทบ.มิได๎ 
กาหนดอัตราจำยให๎แกํหนํวยเป็นประจา แตํเป็นสิ่งอุปกรณ์ที่จะต๎องจัดหาเป็นครั้งคราวเพื่อตอบสนองความ 
ต๎องการแกํหนํวย เชํน เครื่องแตํงกายพิเศษ ,อาวุธพิเศษ ,ยานพาหนะพิเศษ และวัสดุปูอมสนาม เป็นต๎น 
๒.๑.๑.๕ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๕ ได๎แกํ กระสุน และวัตถุระเบิด วัตถุเคมี ซึ่งอยูํในความรับผิดชอบ 
ทางการสํงกาลังของ สพ.ทบ. และ วศ.ทบ. เชํน กระสุน ,ระเบิดขว๎าง ,พลุ ,ดินระเบิด เป็นต๎น 
๒.๒ สิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ 
ตามระเบียบกองทัพบกวำด๎วยความรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๕๕ กาหนดความรับผิดชอบในการ 
กาหนดความต๎องการ, การควบคุม, การจัดหา, การเก็บรักษา, การแจกจำย, การจาหนำย และการซํอมบารุงสิ่ง 
อุปกรณ์ดังรายการตํอไปนี้ 
๒.๒.๑ อาหาร 
๒.๒.๒ เครื่องใช๎ในการเลี้ยงดูและประกอบอาหารตลอดจนอุปกรณ์ในการเก็บรักษาเสบียงเว๎นก๏าซให๎ความ 
ร๎อน
๑๐ 
๒.๒.๓ เครื่องแตํงกาย เครื่องนอน เครื่องใช๎ประจากายและประจาหนํวย ซึ่งเป็นจาพวกหนังและสิ่งถักทอ 
เว๎นเครื่องแตํงกายที่ใช๎ในการปูองกันสงครามเคมี ชีวะ และรังสี 
๒.๒.๔ อุปกรณ์สาหรับใช๎สํงทางอากาศ 
๒.๒.๕ น้ามันเชื้อเพลิงและน้ามันอุปกรณ์ 
๒.๒.๖ เครื่องมือเครื่องใช๎กิจการน้ามัน เว๎นเครื่องมือเครื่องใช๎ในการสํงกาลังทางทํอ 
๒.๒.๗ ปั้มสูบจำยน้ามันเชื้อเพลิง 
๒.๒.๘ ครุภัณฑ์ เครื่องใช๎ในสานักงานและอาคารบ๎านพัก 
๒.๒.๙ เครื่องเขียน เว๎นแบบพิมพ์และกระดาษที่ใช๎ในกิจการแผนที่ 
๒.๒.๑๐ เครื่องบริการซักรีด 
๒.๒.๑๑ เครื่องอาบน้า อุปกรณ์การอาบน้าและเครื่องใช๎สิ้นเปลืองในห๎องน้า 
๒.๒.๑๒ รถยกของ และเครื่องทุํนแรงที่ใช๎ในกิจการคลังสิ่งอุปกรณ์ 
๒.๒.๑๓ วัสดุทาความสะอาด เชํน ยาขัดหนัง ยาขัดโลหะ ผ๎าทาความสะอาดโรงเรือนและสิ่งอุปกรณ์ เป็น 
ต๎น เว๎นที่กาหนดไว๎ในสายงานอื่น 
๒.๒.๑๔ เครื่องมือเครื่องใช๎และอุปกรณ์ในการผลิต สร๎าง ทดสอบ และซํอมบารุงสิ่งอุปกรณ์ตำง ๆ ตามข๎อ 
๒.๒.๑ ถึง ๒.๒.๑๕ 
๒.๒.๑๕ สิ่งอุปกรณ์รายการใดที่ไมํสามารถอนุโลมเข๎าอยูํในสายงานอื่นใด
๑๑ 
บทที่ ๓ 
การส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ 
ตอนที่ ๑ ระเบียบปฏิบัติในยามปกติ 
๓.๑ ความมุํงหมาย 
การสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบกวำด๎วยการเลี้ยงดูทหาร พ.ศ.๒๕๔๙ 
มุํงหมายเพื่อให๎การประกอบเลี้ยงให๎แกํกาลังพลของกองทัพบก โดยใช๎เงินจากเบี้ยเลี้ยงเป็นไปด๎วยความเรียบร๎อย 
มีความรัดกุม โปรํงใส และตรวจสอบได๎ ทั้งนี้เพื่อให๎เจ๎าของเงินเบี้ยเลี้ยงได๎รับประโยชน์สูงสุดจากการประกอบเลี้ยง 
รวมทั้งได๎รับประทานอาหารที่มีคุณคำตามหลักโภชนาการและถูกสุขอนามัย 
๓.๒ คาจากัดความ 
๓.๒.๑ “อาหาร” หมายถึง สิ่งที่ทหารใช๎บริโภคประจาวัน ให๎ประโยชน์แกํรำงกาย เชํน ข๎าว ผัก ผลไม๎ 
เนื้อสัตว์ ของแห๎ง ของเค็ม และเครื่องปรุงทุกชนิด 
๓.๒.๒ “เสบียง” ประกอบด๎วยอาหารชนิดตำงๆ ที่ใช๎ในการเลี้ยงดูทหารมีคุณคำและปริมาณอาหารเพียงพอ 
ตํอความต๎องการของรำงกาย ๑ คนตํอวัน แบํงเป็นเสบียงประเภทตำงๆ ตามลักษณะการใช๎ เป็น ๕ ประเภท 
ดังนี้.- 
๓.๒.๒.๑ เสบียง ก. หมายถึง อาหารสดและอาหารแห๎งทุกชนิดซึ่งใช๎บริโภคประจาวันตามรายการ 
อาหาร กํอนรับประทานต๎องทาการหุงต๎มเสียกํอน 
๓.๒.๒.๒ เสบียง ข. หมายถึง อาหารที่บรรจุกระป๋อง หรือภาชนะอื่นใดในลักษณะทานองเดียวกันนี้ 
สามารถเก็บรักษาไว๎ได๎นานในอุณหภูมิปกติ กํอนรับประทานอาจต๎องประกอบหรือปรุงบ๎างเล็กน๎อย 
๓.๒.๒.๓ เสบียง ค. หมายถึง อาหารสาเร็จรูปจำยเป็นชุด รับประทานได๎ทันที โดยไมํต๎องทาการ 
หุงต๎มใด ๆ 
๓.๒.๒.๔ เสบียง ง. หมายถึง อาหารที่ยํอยงำยใช๎เป็นอาหารบารุงรำงกายสาหรับผู๎ปุวย 
๓.๒.๒.๕ เสบียงพิเศษ หมายถึง เสบียงสาหรับแจกจำยให๎หนํวยตำงๆที่ปฎิบัติการรบพิเศษ หรือ 
เสบียงอื่นใดที่กองทัพบกให๎การสนับสนุนโดยไมํต๎องใช๎เงินคำเสบียงสนามหรือเงินคำเลี้ยงดูสนาม 
๓.๒.๓ “หนํวยประกอบเลี้ยง” หมายถึง หนํวยทหารซึ่งเบิกรับหรือได๎รับอนุมัติให๎จัดหาอาหารมาประกอบ 
เลี้ยงอาหาร หนํวยระดับกองพันหรือเทียบเทำขึ้นไป หนํวยระดับกองร๎อยหรือเทียบเทำที่ปฏิบัติงาน โดยอิสระ 
หรือหนํวยระดับกองร๎อยหรือเทียบเทำซึ่งเป็นหนํวยขึ้นตรงของหนํวยตั้งแตํระดับกรมขึ้นไป ที่มีความพร๎อมทั้ง 
ด๎านสถานที่ สิ่งอุปกรณ์ เจ๎าหน๎าที่ในการเลี้ยงดูอาหาร และได๎รับการอนุมัติให๎ทาการเลี้ยงดูทหาร จากหนํวย 
บังคับบัญชาที่เป็นหนํวยขึ้นตรงของกองทัพบก 
๓.๒.๔ “หนํวยแจกจำย” หมายถึง หนํวยที่มีเจ๎าหน๎าที่จัดหาสะสมและแจกจำยอาหารเชื้อเพลิงสนับสนุน 
หนํวยประกอบเลี้ยงในเขตรับผิดชอบ ได๎แกํ กรมพลาธิการทหารบก กองบัญชาการชํวยรบ มณฑลทหารบก 
และจังหวัดทหารบก 
๓.๒.๕ “เกณฑ์จำยอาหาร” หมายถึง ปริมาณอาหารชนิดตำงๆ ซึ่งกรมพลาธิการทหารบกกาหนดขึ้น 
สาหรับให๎จำยทหาร โดยพิจารณาจากความต๎องการอาหารประจาวันของแตํละคน 
๓.๒.๖ “จานวนเบิกอาหาร” หมายถึง จานวนอาหารซึ่งหนํวยประกอบเลี้ยงแจ๎งลํวงหน๎าไปยังหนํวย 
แจกจำย ตามเวลาหนํวยแจกจำยกาหนด เพื่อขอรับอาหารมาทาการประกอบเลี้ยง และหนํวยแจกจำยใช๎เป็น 
ยอดจำยอาหารและคิดเงินด๎วย 
๓.๒.๗ “จานวนเงินเบี้ยเลี้ยงได๎” หมายถึง จานวนทหารที่มีอยูํตามยอดกาลังพลประจาวันของหนํวย 
ประกอบเลี้ยง นาสํงตํอหนํวยแจกจำย
๑๒ 
๓.๒.๘ “จานวนรับประทานจริง” หมายถึง จานวนทหารซึ่งรับประทานอาหารของหนํวยประกอบเลี้ยง 
แตํละมื้อ 
๓.๓ ความรับผิดชอบในการสํงกาลัง 
๓.๓.๑ ผู๎บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต๎องรับผิดชอบในกิจกรรมเลี้ยงดูทหารในหนํวยของตนให๎เป็นไปตาม 
ระเบียบ มีความรัดกุม โดยคานึงถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เป็นผลดี แกํทหารมากที่สุด และรับทราบผล 
การดาเนินการอยูํเสมอ ระเบียบนี้ประสงค์ที่จะให๎ผู๎บังคับหนํวยทุกระดับชั้น ใช๎ความเป็นผู๎นาหนํวยดาเนินการ 
บริหารจัดการงานทั้งปวง โดยใช๎หลักธรรมาภิบาล จึงมีการกาหนดการควบคุมจากระดับบังคับบัญชาที่สูงกวำ 
คํอนข๎างน๎อย ทั้งนี้ต๎อง ให๎มีการควบคุมกันเองภายในหนํวย 
๓.๓.๒ กรมพลาธิการทหารบก มีหน๎าที่อานวยการ,ดาเนินการ และกากับการให๎การเลี้ยงดูเป็นไปด๎วย 
ความเรียบร๎อย โดยปฏิบัติดังนี้.- 
๓.๓.๒.๑ เสนอแนะนโยบายการเลี้ยงดูแกํกองทัพบก และจัดทาวิธีการปฏิบัติปรับปรุงระดับ 
มาตรฐานการเลี้ยงดู ทุกขั้นตอนและทุกระดับหนํวย (เว๎นการเลี้ยงดูทหารเจ็บปุวยของโรงพยาบาลทหารและ 
สถานพยาบาลทหาร) 
๓.๓.๒.๒ จัดทาคูํมือการปฏิบัติ ข๎อแนะนา คาชี้แจงเกี่ยวกับการเลี้ยงดูทุกขั้นตอน และทุกหน๎าที่ 
สูตรอาหาร วิธีประกอบอาหาร และสิ่งที่ใช๎แทนกันได๎ 
๓.๓.๒.๓ จัดให๎มีการฝึกอบรม เจ๎าหน๎าที่ซึ่งจะต๎องปฏิบัติในกิจการเลี้ยงดู 
๓.๓.๒.๔ กากับกิจการเลี้ยงดูทหารทั่วทั้งกองทัพบก 
๓.๓.๒.๕ ตรวจผลงาน ศึกษาพิจารณา, ให๎คาแนะนาเกี่ยวกับกิจการเลี้ยงดู 
๓.๓.๒.๖ แก๎ปัญหาข๎อขัดแย๎งของหนํวยตำงๆ เพื่อมิให๎การเลี้ยงดูทหารหยุดชงักหรือเสียหายใดๆ 
๓.๓.๒.๗ ตรวจคุณคำอาหารตามใบสรุปเกณฑ์การจำยอาหารประจาเดือน 
๓.๓.๓ เจ๎าหน๎าที่สายการแพทย์ของหนํวยตำงๆ มีหน๎าที่ดังตํอไปนี้ 
๓.๓.๓.๑ สารวจปริมาณอาหารที่ทหารบริโภคจริงๆ วำเพียงพอหรือไมํโดยเลือกทาจากหนํวย 
ทหารบางแหํง 
๓.๓.๓.๒ สอบสวนค๎นคว๎าสาเหตุ เมื่อเกิดอาหารเป็นพิษ หรือโรคทางเดินอาหารระบาดขึ้น 
๓.๓.๓.๓ ควบคุมและแนะนาการสุขาภิบาล รวมทั้งการตรวจการ สุขาภิบาลภายในหนํวย 
๓.๓.๓.๔ รํวมเป็นกรรมการตรวจรับอาหาร 
๓.๓.๓.๕ ตรวจสุขภาพเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยงดู 
กรมพลาธิการทหารบก กรมแพทย์ทหารบก และกรมการสัตว์ทหารบก รับผิดชอบในการสารวจ 
ให๎ข๎อเสนอแนะ ข๎อแนะนา และคาชี้แจงตำงๆ ตามสายงานที่รับผิดชอบ เพื่อให๎การเลี้ยงดูทหารของกองทัพบก 
เป็นไปอยำงมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้อาจกาหนดนโยบายจัดทาคูํมือ/คาชี้แจง สารวจ วิเคราะห์ และประเมิน ตาม 
อานาจหน๎าที่ และความรับผิดชอบที่ได๎กาหนดไว๎ใน อฉก. 
๓.๓.๔ กรมพลาธิการทหารบก กองบัญชาการชํวยรบ มณฑลทหารบก และจังหวัดทหารบก มีหน๎าที่ 
จัดหา สะสม และแจกจำยอาหารสนับสนุนหนํวยประกอบเลี้ยง ในพื้นที่รับผิดชอบโดยปฏิบัติ ดังนี้ 
๓.๓.๔.๑ อานวยการจัดหา และแจกจำยอาหาแกํหนํวยประกอบเลี้ยง โดยมีเจ๎าหน๎าที่สายยุทธ 
บริการที่เกี่ยวข๎องเป็นผู๎ปฏิบัติ ให๎เป็นไปตามนโยบายที่กาหนด 
๓.๓.๔.๒ ปรับปรุง แก๎ไขกิจการเลี้ยงดู ให๎เหมาะสมกับสภาพการณ์ในท๎องถิ่น และเสนอแนะ 
วิธีการตามสายการสํงกาลังจนถึงกองทัพบก 
๓.๓.๔.๓ รายงานผลการปฏิบัติตามกาหนด 
๓.๓.๔.๔ หากเห็นเป็นการสมควร ก็อาจแตํงตั้งคณะกร รมการควบคุมการเลี้ยงดูขึ้นคณะหนึ่ง 
จานวนตามความเหมาะสม ประกอบด๎วยนายทหารชั้นผู๎ใหญํของหนํวยสํวนภูมิภาค และหนํวยประกอบเลี้ยง 
เพื่อทาหน๎าที่ควบคุมแนะนาการเลี้ยงดู เป็นสํวนรวมภายในคำยทหารก็ได๎
๑๓ 
๓.๓.๕ นายทหารกากับการเลี้ยงดู ให๎ผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง แตํงตั้งทหารทาหน๎าที่กากับดูแล และ 
ตรวจกิจการเลี้ยงดู โดยคัดเลือกนายทหารที่มีความรู๎ และเคยปฏิบัติงานเลี้ยงดูมาแล๎ว ให๎มีหน๎าที่ดังนี้ 
๓.๓.๕.๑ กากับดูแลการปฏิบัติการเลี้ยงดู ให๎ทหารได๎รับประโยชน์มากที่สุด แล๎วประเมินคำ 
ความนิยมของทหาร เกี่ยวกับ ชนิด, ปริมาณ, คุณภาพ, วิธีการปรุงอาหารและอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางสาหรับ 
เสนอแนะกรมพลาธิการทหารบก ตามความเหมาะสม 
๓.๓.๕.๒ รายงานผลการปฏิบัติพร๎อมทั้งเสนอแนะ การแก๎ไขตํอผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยงตาม 
ระยะเวลา 
๓.๓.๕.๓ กากับดูแลการปรนนิบัติบารุง การจาหนำย การเบิกทดแทนสูทภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่ใช๎ 
ในการประกอบเลี้ยง เพื่อให๎หนํวยได๎มีไว๎ใช๎ตลอดเวลา 
๓.๓.๕.๔ เสนอแนะผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง เพื่อให๎เจ๎าหน๎าที่ปฏิบัติงานประกอบเลี้ยงทุก 
หน๎าที่ได๎รับการอบรมและสามารถทาหน๎าที่แทนกันได๎ 
๓.๓.๕.๕ ให๎นายทหารกากับการเลี้ยงดูของหนํวยเหนือ กากับดูแลและหมั่นตรวจเยี่ยม การ 
ปฏิบัติการเลี้ยงดูของหนํวยรอง ให๎เป็นไปตามแบบธรรมเนียมของทางราชการด๎วย 
๓.๔ หนํวยประกอบเลี้ยง 
๓.๔.๑ ผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง หมายถึง ผู๎บังคับบัญชาสูงสุด ของหนํวยประกอบเลี้ยง ซึ่งได๎รับ 
การแตํงตั้งจากผู๎บังคับบัญชาระดับผู๎บัญชาการกองพล หรือเทียบเทำขึ้นไป 
๓.๔.๒ การปฏิบัติ ณ โรงประกอบเลี้ยง 
๓.๔.๒.๑ หนํวยประกอบเลี้ยงกาหนดระเบียบปฏิบัติประจา เพื่อควบคุมการปฏิบัติ ณ โรง 
ประกอบเลี้ยง เชํน การปฏิบัติหน๎าที่ของเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง การควบคุมมิให๎ ข๎าวสาร เชื้อเพลิง อาหาร 
ภาชนะ เครื่องใช๎ในการเลี้ยงดูสูญหาย เป็นต๎น 
๓.๔.๒.๒ เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง ดาเนินการประกอบเลี้ยงให๎เป็นไปตามหลักโภชนาการ และ 
เกิดประโยชน์ตํอทหารให๎มากที่สุด 
๓.๔.๓ หนํวยประกอบเลี้ยงควรจัดให๎มีสถานที่เหลำนี้ คือ 
๓.๔.๓.๑ ที่เก็บอาหาร 
๓.๔.๓.๒ ที่เก็บเชื้อเพลิง 
๓.๔.๓.๓ ที่เก็บเครื่องมือเครื่องใช๎ 
๓.๔.๓.๔ ที่เตรียมอาหารและประกอบอาหาร 
๓.๔.๓.๕ ที่เลี้ยงอาหาร 
๓.๔.๓.๖ ที่ทาความสะอาด 
๓.๔.๓.๗ ที่ทิ้งเศษอาหาร 
๓.๔.๓.๘ ที่พักเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง 
๓.๔.๔ เครื่องมือใช๎ในการปฏิบัติการเลี้ยงดูหรือสูทภัณฑ์ ทหารของหนํวยประกอบเลี้ยงตามอัตราที่ 
กองทัพบกกาหนด ได๎เบิกรับตามสายการสํงกาลังบารุง 
๓.๔.๕ การเสนอความต๎องการปริมาณอาหารและเชื้อเพลิง 
๓.๔.๕.๑ หนํวยรับการเลี้ยงดูเสนอความต๎องการเลี้ยงดู ไปยังเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง (ผำน 
เจ๎าหน๎าที่ตรวจสอบยอดกาลังพลที่รับการเลี้ยงดูของหนํวยประกอบเลี้ยง) 
๓.๔.๕.๑.๑ เสนอความต๎องการข๎าวสารและเชื้อเพลิง โดยประมาณการเป็นจานวนทหาร 
ที่รับการเลี้ยงดู ในรอบ ๑ เดือน 
๓.๔.๕.๑.๒ เสนอความต๎องการอาหาร โดยประมาณการเป็นจานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู 
ในทุกห๎วงวันที่ ๑-๑๐ , วันที่ ๑๑-๒๐, วันที่ ๒๑-๓๐ หรือ ๓๑ ของเดือน
๑๔ 
๓.๔.๕.๑.๓ ให๎เสนอความต๎องการอาหารและเชื้อเพลิง ถึงเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง 
ลํวงหน๎า กํอนถึงวันที่รับการเลี้ยงดูวันแรก อยำงน๎อย ๕ วันทาการ 
๓.๔.๕.๒ เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง รวบรวมความต๎องการอาหารและเชื้อเพลิง แล๎วคานวณความ 
ต๎องการ ปริมาณอาหาร และเชื้อเพลิงจากเกณฑ์ความสิ้นเปลือง/วัน/คน โดยต๎องคานึงคุณคำทางโภชนาการ 
และถูกหลักอนามัย มีปริมาณเพียงพอตํอการปฏิบัติภารกิจ และความพึงพอใจของทหาร เสนอเจ๎าหน๎าที่ 
จัดหาดาเนินกรรมวิธีจัดหาตํอไป ดังนี้ 
๓.๔.๕.๒.๑ ข๎าวสาร เสนอให๎จัดหาในปริมาณความต๎องการในรอบ ๑ เดือนโดยคานวณ 
จากเกณฑ์ความสิ้นเปลือง เฉลี่ย/วัน/คน หักด๎วยจานวนข๎าวสารคงเหลือจากเดือนที่แล๎ว 
๓.๔.๕.๒.๒ เชื้อเพลิง เสนอให๎จัดหาในปริมาณการใช๎ ในรอบ ๑ เดือน โดยคานวณ 
จากเกณฑ์ความสิ้นเปลือง เฉลี่ย/วัน/คน ประกอบกับสถิติการใช๎เฉลี่ยตํอเดือน หักด๎วยจานวนเชื้อเพลิง 
คงเหลือจากเดือนที่แล๎ว 
๓.๔.๕.๒.๓ อาหารสด เสนอให๎จัดหา โดยระบุรายการอาหารที่เหมาะสมกับฤดูกาลและ 
ท๎องถิ่น ในห๎วงนั้นในรอบ ๑๐ วัน หรือ ๑๑ วัน แล๎วแตํกรณี 
๓.๔.๖ การจัดหา 
๓.๔.๖.๑ เจ๎าหน๎าที่จัดหา ดาเนินการจัดหา ข๎าวสาร เชื้อเพลิง และ อาหารสด ตาม 
เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง เสนอความต๎องการ ดังนี้ 
๓.๔.๖.๒ ข๎าวสาร จัดหาโดยออกใบสั่งซื้อ ตามจานวนที่เสนอความต๎องการภายในวงเงินที่ 
คานวณได๎จาก จานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู 
๓.๔.๖.๓ เชื้อเพลิง จัดหาโดยออกใบสั่งซื้อ ตามจานวนที่เสนอความต๎องการภายในวงเงินที่ 
คานวณได๎จาก จานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู 
๓.๔.๖.๔ อาหาร จัดหาโดยออกใบสั่งซื้อ ตามประเภท ชนิดและจานวนของอาหาร ซึ่ง 
พิจารณาจากรายการอาหารตามสูตรอาหารทั่วไป ประกอบกับราคาอาหารสดในท๎องถิ่น ณ ห๎วงเวลานั้น 
ภายในวงเงินที่คานวณได๎จากจานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู 
๓.๔.๗ การตรวจรับ 
๓.๔.๗.๑ ให๎คณะกรรมการตรวจรับการจัดหา ข๎าวสาร เชื้อเพลิงและอาหาร ซึ่งประกอบ 
ด๎วยนายทหารที่ได๎รับการแตํงตั้งจากผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยงและผู๎แทนพลทหาร 
กองประจาการที่รับการเลี้ยงดู ทาการตรวจรับพร๎อมสํงมอบให๎แกํเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง แล๎วรายงานผล 
การตรวจรับให๎ผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยงทราบภายในวันทาการถัดไป 
๓.๔.๗.๒ ให๎เจ๎าหน๎าที่จัดหา ตั้งเรื่องขออนุมัติเบิกเงินการจัดหา ข๎าวสาร เชื้อเพลิง และ 
อาหาร ตํอผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง (ผำนเจ๎าหน๎าที่การเงิน) ตํอไปดังนี้.- 
๓.๔.๗.๒.๑ ข๎าวสาร และเชื้อเพลิง ตั้งเรื่องขออนุมัติเบิกเงินหลังจากหนํวยรับการเลี้ยง 
ดู นาสํงเงินประกอบเลี้ยงในแตํละงวด หรือในงวดสุดท๎ายของเดือนแล๎ว 
๓.๔.๗.๒.๒ อาหาร ตั้งเรื่องขออนุมัติเบิกเงินหลังจากหนํวยรับการเลี้ยงดูนาสํงเงินคำ 
ประกอบเลี้ยงในแตํละงวดแล๎ว 
๓.๔.๘ การปฏิบัติเรื่องการเงิน 
๓.๔.๘.๑ หนํวยทหารที่รับการเลี้ยงดู เบิกเบี้ยเลี้ยงทหารจากหนํวยการเงิน ในแตํละงวด 
การจำยเบี้ยเลี้ยง ให๎เป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการได๎กาหนดไว๎ ทั้งนี้ ทหารจะต๎องลงนามรับเงินเบี้ยเลี้ยง 
เต็มจานวน เพื่อให๎เป็นไปตามนัยทกี่รมบัญชีกลางได๎ชี้แจง ตามที่ได๎ระบุไว๎ในระเบียบนี้แล๎วจึงดาเนินการดังน.ี้- 
๓.๔.๘.๒ รวบรวมเงินคำประกอบเลี้ยงจากทหารที่รับการเลี้ยงดู ในแตํละงวดการจำยเบี้ย 
เลี้ยง ในอัตราคำประกอบเลี้ยงที่กองทัพบกกาหนด
๑๕ 
๓.๔.๘.๓ นาสํงเงินคำประกอบเลี้ยงที่รวบรวมได๎ ให๎เจ๎าหน๎าที่การเงิน (ผำนเจ๎าหน๎าที่ 
ตรวจสอบยอดกาลังพลที่รับการเลี้ยงดู ของหนํวยประกอบเลี้ยง) โดยแยกเป็น 
๓.๕. การเลี้ยงดูทหารเจ็บปุวย 
๓.๕..๑ ทหารเจ็บปุวยซึ่งสามารถรับการเลี้ยงดูจากหนํวยประกอบเลี้ยงได๎ ให๎หนํวยประกอบเลี้ยง 
ดาเนินการประกอบเลี้ยงตามคาแนะนาของแพทย์ 
๓.๕..๒ ทหารเจ็บปุวยที่เข๎ารับการรักษาพยาบาลในหนํวยพยาบาลทหาร ให๎หนํวยพยาบาลทหาร 
ดาเนินการในการเลี้ยงดูได๎ตามความเหมาะสม โดยไมํต๎องปฏิบัติตามระเบียบนี้ 
๓.๖ การเลี้ยงดูทหารที่นับถือศาสนาอิสลาม 
๓.๖.๑ ถ๎าหนํวยประกอบเลี้ยงใดมีทหารที่นับถือศาสนาอิสลามจานวนน๎อยหนํวยนั้นอาจพิจารณา 
จำยเบี้ยเลี้ยงบุคคลให๎กับทหารเหลำนั้น โดยไมํต๎องประกอบเลี้ยงก็ได๎ 
๓.๖.๒ ถ๎าหนํวยประกอบเลี้ยงใดมีทหารที่นับถือศาสนาอิสลามจานวนเพียงพอที่จะทาการประกอบ 
เลี้ยงอาหารอิสลามได๎ ให๎หนํวยนั้นประกอบเลี้ยงอาหารอิสลามแกํทหารเหลำนั้น โดยกาหนดรายการอาหารและ 
ยอดจานวนทหารที่นับถือศาสนาอิสลามไว๎ในแบบ ง. 
๓.๗ การเลี้ยงดูทหารต๎องโทษ ให๎ปฏิบัติตามระเบียบนี้โดยอนุโลม 
๓.๘ การเลี้ยงดูนักเรียนทหารที่ได๎รับเบี้ยเลี้ยงประจาสูงกวำพลทหาร ไมํต๎องปฏิบัติตามระเบียบนี้ 
และให๎ผู๎บัญชาการโรงเรียนกาหนดระเบียบได๎เองตามความเหมาะสม ทั้งนี้นักเรียนทหารจะต๎องลงนามรับเงิน 
เบี้ยเลี้ยงเต็มจานวนเสียกํอน เพื่อให๎เป็นไปตามนัยที่กรมบัญชีกลางได๎ชี้แจง ตามที่ได๎ระบุไว๎ในข๎อ ๕ ของ 
ระเบียบนี้ สาหรับการกาหนดระเบียบต๎องคานึงถึงการมีสํวนรํวมของผู๎ที่เป็นเจ๎าของเบี้ยเลี้ยงเป็นสาคัญ 
การเลี้ยงดูโดยใช๎เงินจากเบี้ยเลี้ยงที่มิใชํเบี้ยเลี้ยงประจา ตามข๎อบังคับกระทรวงกลาโหมวำด๎วยเบี้ย 
เลี้ยงทหารฯ ที่มีผลบังคับใช๎อยูํนั้น ให๎ผู๎บังคับหนํวยขึ้นตรงตํอกองทัพบกกาหนดระเบียบได๎เองตามความ 
เหมาะสม 
หลักฐานอ๎างอิง 
ระเบียบกองทัพบกวำด๎วยการเลี้ยงดูทหาร พ.ศ. ๒๕๔๙ (ประกาศใช๎ วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙)
๑๖ 
การส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ 
ตอนที่ ๒ ระเบียบปฏิบัติในสนาม 
๓.๘ ความมุํงหมาย 
ระเบียบปฏิบัติในการสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ในสนาม มุํงหมายจะให๎ทรายถึงระบบการสํงกาลังสงิ่อุปกรณ์ 
ประเภท ๑ ในสนามโดยเฉพาะ ซึ่งแตกตำงจากระเบียบปฏิบัติในยามปกติ 
๓.๙ คาจากัดความที่ควรทราบ 
๓.๙.๑ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ หมายถึง เสบียงสนามทุกชนิดที่ใช๎และบริโภค (เว๎นเสบียงสัตว์) เชํน ข๎าว, 
ผัก,เนื้อสัตว์,เครื่องปรุงและผลไม๎ เป็นต๎น แบํงออกได๎เป็น ๕ ประเภท คือ เสบียงประเภท ก., ประเภท ข., 
ประเภท ค., ประเภท ง., และเสบียงพิเศษ สาหรับเสบียงประเภท ก,ข,ค,ง และเสบียงพิเศษ มีความหมายเชํน 
เดียวกันใน ระเบียบ ทบ.วำด๎วยการสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ (ในสนาม) พ.ศ.๒๕๓๕โดยมีวิธีการเลี้ยงดู 
ดังนี้.- 
๓.๙.๑.๑ เสบียงประเภท ก. ถือวำเป็นเสบียงหลักสาหรับใช๎ในสถานการณ์ขั้นการยุทธ์ที่ไมํมีการ 
เคลื่อน ย๎ายและโอกาสอานวยให๎สามารถทาการหุงต๎มได๎ 
๓.๙.๑.๒ เสบียงประเภท ข. ถือวำเป็นเสบียงหลักสาหรับการใช๎ในการรบเสบียงประเภทนี้มีความ 
มุํงหมายเพื่อใช๎แทนเสบียง ก ในเมื่อไมํมีสิ่งอานวยความสะดวกในการเก็บเย็น 
๓.๙.๑.๓ เสบียงประเภท ค. ใช๎เมื่อไมํสามารถจัดครัวเลี้ยงรวมได๎ 
๓.๙.๑.๔ เสบียงประเภท ง. จัดขึ้นใช๎เป็นอาหารสาหรับผู๎ปุวย 
๓.๙.๒ ตาบลจำยสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ หมายถึง ตาบลที่รับและจำยสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ เพื่อสนับสนุน 
หนํวยประกอบเลี้ยงในพื้นที่รับผิดชอบของหนํวยระดับกองพล 
๓.๙.๓ ตาบลสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ หมายถึง สถานที่ตั้งทางการสํงกาลังและปฏิบัติงานเกี่ยวกับ 
การจัดหา, เก็บรักษาและแจกจำยสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ เพื่อสนับสนุนหนํวยตำง ๆ ในพื้นที่ความรับผิดชอบ 
ของหนํวยระดับกองทัพภาคขึ้นไป 
๓.๙.๔ วันสํงกาลัง หมายถึง จานวนสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ซึ่งประมาณวำจะต๎องใช๎สิ้นเปลืองใน ๑ วัน 
โดยอาศัยสถานการณ์การปฏิบัติและกาลังพลเป็นมูลฐาน 
๓.๙.๕ วงรอบเสบียง หมายถึง ห๎วงเวลาซึ่งบริโภคหรืออาหาร ๓ มื้อหมดปกติใช๎เริ่มต๎นจากมื้อเย็น 
๓.๙.๖ ยำนเสบียง หมายถึง ห๎วงระยะเวลานับตั้งแตํหนํวยประกอบเลี้ยงเสนอใบเบิกเสบียงไปยังหนํวย 
สนับสนุน จนถึงวันที่ได๎รับเสบียงมาใช๎และบริโภค 
๓.๑๐ ในระดับกองทัพบกสนาม (เขตหลัง) 
๓.๑๐.๑ การจัดหนํวยงาน 
๓.๑๐.๑.๑ กองบัญชาการสํงกาลังบารุงของกองทัพบก ซึ่งเป็นหนํวยรองหลักของกองทัพบก 
สนาม กองทัพบกจะจัดตั้ง บช.กบ.ทบ.ขึ้น ทาหน๎าที่สนับสนุนทางการสํงกาลังบารุงให๎แกํหนํวยตำงๆของ 
กองทัพบกทั้งสิ้นในยุทธบริเวณ และทาหน๎าที่ปูองกันพื้นที่สํวนหลังรวมทั้งปกครองดินแดนในเขตหลังของยุทธ 
บริเวณ ซึ่งจะรับผิดชอบในการสนับสนุนทางการสํงกาลังบารุงให๎แกํหนํวยตำงๆของ ทบ.ที่ขึ้นตรงตํอ ทบ.สนาม 
๓.๑๐.๑.๒ คลังสิ่งอุปกรณ์ประเภทที่ ๑ กก.พธ.ทบ.จะจัดตั้ง คลัง สป.๑ นี้ขึ้นโดยมีกองร๎อย 
พลาธิการคลังเสบียงเป็นหนํวยปฏิบัติ คลัง สป.๑ นี้ขึ้นตรงตํอ บช.กบ.ทบ.ในพื้นที่เขตหลังของยุทธบริเวณ 
๓.๑๐.๑.๓ มทบ. และ จทบ. ในเขตหลัง คงทาหน๎าที่เป็นตาบลสํงกาลัง สป.๑ ภายใต๎การ 
กากับดูแล ของ บช.กบ.ทบ. สนับสนุนโดยตรงให๎แกํหนํวยทหารที่ตั้งอยูํในพื้นที่ของตน
๑๗ 
๓.๑๐.๒ กาหนดการระดับสิ่งอุปกรณ์ 
๓.๑๐.๒.๑ คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.สะสม สป.๑ ตามระดับสิ่งอุปกรณ์ที่ ทบ.กาหนดให๎ 
สะสมในยุทธบริเวณ ๔๕ วันสํงกาลัง และ สะสมไว๎ในเขตหน๎า ๘ วันสํงกาลัง 
๓.๑๐.๒.๒ มทบ.และ จทบ.ที่อยูํในสายการสํงกาลัง (ในเขตหลัง) สะสม สป.๑ ตามระดับสิ่ง 
อุปกรณ์ที่หนํวยเหนือกาหนด 
๓.๑๐.๒.๓ สป.๑ สารองของ ทบ.สะสมไว๎ที่ กก.พธ.ทบ. (เขตภายใน) ระบบการสํงกาลังเริ่ม 
จากเขตภายใน สิ่งอุปกรณ์และบริการไหลจากแหลํงผลิตอุตสาหกรรมในประเทศหรือจัดหาจากภายนอก 
ประเทศ 
๓.๑๐.๓ การจัดหา 
๓.๑๐.๓.๑ ตามปกติคลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.รับเสบียงจาก กก.พธ.ทบ.การจัดหา สป.๑ 
ทุกรายการของยุทธบริเวณให๎ถือเบิกจากเขตภายในเป็นหลัก 
๓.๑๐.๓.๒ บช.กบ.ทบ.มีอานาจจัดซื้อ สป.๑ ในท๎องถิ่นบางรายการได๎ตามความจาเป็น กรณี 
สป.๑ บางรายการเป็นเสบียงเสียงำยไมํอาจสํงจากเขตภายในได๎หรือราคาในท๎องถิ่นถูกกวำ ทบ.อาจมอบ 
อานาจให๎ยุทธบริเวณจัดซื้อได๎ 
๓.๑๐.๓.๓ ในกรณีที่ต๎องเกณฑ์ สป.๑ ในท๎องถิ่นเพื่อใช๎ในราชการ ต๎องแจ๎งให๎ มทบ.หรือ 
จทบ.ซึ่งเป็นเจ๎าหน๎าที่ท๎องถิ่นดาเนินการให๎ 
๓.๑๐.๔ การเก็บรักษา คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.และตาบลสํงกาลัง สป.๑ ณ ที่ตั้ง มทบ.และ จทบ.มี 
หน๎าที่เก็บรักษา สป.๑ ตามระดับที่กาหนด 
๓.๑๐.๕ การแจกจำย 
๓.๑๐.๕.๑ คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ. รับ สป.๑ จาก กก.พธ.ทบ.และจัดซื้อในท๎องถิ่น เพื่อ 
แจกจำยให๎กับตาบลสํงกาลัง ณ มทบ.และ จทบ.ตำง ๆ ในเขตหลังและให๎การสนับสนุนกับคลัง หรือ ตส.ของ 
กองทัพภาคในเขตหน๎าอีกด๎วย 
๓.๑๐.๕.๒ หนํวยใช๎ในท๎องถิ่น เบิกรับ สป.๑ จาก ตส.สป.๑ ณ ที่ตั้ง มทบ.และ จทบ.ในพื้นที่ 
รับผิดชอบ หรือเบิกรับโดยตรงจาก คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.แล๎วแตํกรณี 
๓.๑๐.๕.๓ วิธีการแจกจำยมี ๒ วิธี คือ แจกจำยถึงหนํวยและแจกจำย ณ ตาบลสํงกาลัง 
ตามปกติใช๎การแจกจำยถึงหนํวยเป็นหลัก 
๓.๑๑ ระดับกองทัพภาค 
๓.๑๑.๑ การจัดหนํวยงาน หนํวยงานตำง ๆ ที่มีสํวนรับผิดชอบในการสํงกาลัง สป.๑ ในระดับกองทัพภาค 
มีดังตํอไปนี้.- 
๓.๑๑.๑.๑ พลาธิการกองทัพภาค เป็นหัวหน๎าเหลำพลาธิการในกองทัพภาค ทาหน๎าที่เป็น 
นายทหารฝุายกิจการพิเศษของแมํทัพกองทัพภาค เป็นผู๎ให๎ข๎อเสนอแนะ ให๎ขำวสารและชํวยเหลือแมํทัพภาคใน 
การกาหนดนโยบายและวางแผนเกี่ยวกับการสํงกาลัง สป.๑ ในกองทัพภาค 
๓.๑๑.๑.๒ กองบัญชาการชํวยรบของกองทัพบก เป็นหนํวยรับผิดชอบในการสนับสนุนการสํง 
กาลังบารุงทั้งปวงในกองทัพภาค ควบคุมบังคับบัญชาหนํวยงานสายยุทธบริการตำง ๆ ทั้งหมดในพื้นที่ชํวยรบ 
กองทัพภาคโดยมี มทบ. และ จทบ. ทาหน๎าทีเป็นตาบลสํงกาลังของกองทัพภาคเพื่อเสริมขีดความสามรถใน 
การปฎิบัติงานของ บชร. ให๎มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 
๓.๑๑.๑.๓ ศูนย์ควบคุมการสํงกาลังบารุงของ บชร.ทภ. เป็นศูนย์บริหารการสํงกาลังสายงาน 
ฝุายยุทธบริการในกองทัพภาค มีเจ๎าหน๎าที่พลาธิการเป็นผู๎ทาหน๎าที่กาหนดความต๎องการ, ควบคุมการจัดหา 
และเบิก, อานวยการเก็บรักษาและแจกจำย สป.๑ สนับสนุนแกํหนํวยทั้งปวงในกองทัพภาค 
๓.๑๑.๑.๔ กองพันสํงกาลังและบริการ ตามอัตราของ บชร.ทภ.รับผิดชอบในการจัดตั้งตาบลสํง 
กาลัง สป.๑ ของกองทัพภาคเพื่อทาการรับ, เก็บรักษาและการแจกจำย สป.๑ สนับสนุนโดยตรงให๎แกํหนํวยขึ้น
๑๘ 
ตรงของกองทัพภาคและสนับสนุนทั่วไปผำน มทบ.และจทบ.ให๎แกํกองทหารพลาธิการกองพล หรือกองร๎อยสํง 
กาลังและบริการ กรมสนับสนุนอีกด๎วย 
๓.๑๑.๑.๕ คลัง สป.๑ มทบ.และ จทบ. เป็นคลังเกียกกายของฝุายพลาธิการ มทบ.และ จทบ. 
ในพื้นที่ชํวยรบของ ทภ.และเป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.ทาหน๎าที่จัดหา เก็บรักษาและแจกจำย สป.๑ สนับสนุนแกํ 
หนํวยทหารในพื้นที่รับผิดชอบของหนํวยระดับกองทัพภาค ภายใต๎การควบคุมและกากับดูแลของ บชร.ทภ. 
(เว๎น มทบ.และ จทบ.ที่ตั้งอยูํในที่ตั้งของ บชร.ทภ.) 
๓.๑๑.๒ การกาหนดความต๎องการ สป.๑ บชร.ทภ. รวบรวมความต๎องการโดยศูนย์ควบคุมการสํงกาลัง 
บารุงของ บชร.ทภ.รับผิดชอบในการกาหนดความต๎องการทั้งจานวนและชนิดของ สป.๑ ที่ใช๎ในพื้นที่ของ 
กองทัพภาค โดยอาศัยข๎อมูลและคาสั่งชํวยรบกองทัพภาคตลอดจนระดับสิ่งอุปกรณ์ที่ ทบ.กาหนด เป็น 
แนวทางในการพิจารณา 
๓.๑๑.๓ การจัดหา 
๓.๑๑.๓.๑ บชร.ทภ.เบิกรับ สป.๑ จากคลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.ในเขตหลังและอาจมอบ 
อานาจให๎ บชร.จัดหา สป.๑ เองเฉพาะรายการที่ได๎รับอนุมัติจัดหาในท๎องถิ่นเนื่องจากเป็นเสบียงเสียงำยและ 
ขาดสิ่งอานวยความสะดวกในการขนสํง เพื่อสะสมไว๎ตามสถานเก็บรักษาตำง ๆ ในพื้นที่ชํวยรบทภ.เชํนที่คลัง 
และตาบลสํงกาลัง สป.๑ ตำง ๆ 
๓.๑๑.๓.๒ มทบ.และ จทบ. ซึ่งตั้งอยูํนอกที่ตั้ง บชร.และเป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.เบิกรับ สป.๑ 
จากคลัง สป.๑ ของ ทภ.และจัดซื้อ สป.๑ บางรายการในท๎องถิ่นของตน ในฐานะเป็นตัวแทนเพิ่มขีด 
ความสามารถการสํงกาลังของ บชร.ทภ.แล๎วยังเป็นที่เก็บรักษาไว๎ ณ สถานเก็บรักษาของ มทบ.และ จทบ.นั้น ๆ 
๓.๑๑.๔ การเก็บรักษาและสะสม 
๓.๑๑.๔.๑ กองพันสํงกาลังและบริการ จัดตั้งคลังหรือตาบลสํงกาลัง สป.๑ ของกองทัพภาคเพื่อ 
ทาการเก็บรักษา สป.๑ ณ ที่ตั้งของ บชร. ในสํวนพื้นที่ชํวยรบกองทัพภาค 
๓.๑๑.๔.๒ มทบ.และ จทบ. ซึ่งทาหน๎าที่เป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.(ในเขตหน๎า)คงใช๎สถานเก็บ 
รักษาที่มีอยูํเดิม เป็นที่เก็บรักษา ภายใต๎การควบคุมของ บชร.ทภ. 
๓.๑๑.๔.๓ บชร.ทภ.รับผิดชอบการสํงกาลังบารุงเป็นสํวนรวมในพื้นที่กองทัพภาค ในการที่จะ 
ให๎คลัง สป.๑ และ ตส.สป.๑ ของ ทภ. สะสมไว๎ตามชนิดเสบียงและจานวนที่กาหนดการกาหนดระดับ สป.๑ 
อยูํในอานาจของแมํทัพภาค 
๓.๑๑.๕ การแจกจำย 
๓.๑๑.๕.๑ หนํวยใช๎ซึ่งตั้งอยูํในพื้นที่ของ มทบ.หรือ จทบ. ซึ่งเป็น ตส. สป.๑ ของ ทภ.คงเบิกรับ 
สป.๑ จาก มทบ. หรือ จทบ. ซึ่งเป็นหนํวยสนับสนุนให๎นั้น 
๓.๑๑.๕.๒ หนํวยใช๎ซึ่งตั้งอยูํในพื้นที่เดียวกับที่ตั้งของ บชร.ทภ.คงเบิกรับสป.๑ สนับสนุนโดยตรง 
จาก คลังหรือ ตส.สป.๑ ของ ทภ.ที่จัดตั้งและดาเนินงานการสํงกาลัง สป.๑ โดยกองพันสํงกาลังและบริการ บชร. 
๓.๑๑.๕.๓ มทบ.และ จทบ.ซึ่งทาหน๎าที่เป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.รายงานสถานภาพ สป.๑ บาง 
รายการในสถานเก็บรักษาของตน ให๎ ศูนย์ควบคุมการสํงกาลังบารุง บชร.ทราบตามระยะเวลาที่กาหนด 
๓.๑๑.๕.๔ บชร.ทภ.จะจัดสํง สป.๑ บางรายการไปเพิ่มเติมเพื่อรักษาระดับ สป. ณ สถานที่ตั้งสํง 
กาลังให๎แกํ มทบ.และ จทบ.ให๎เต็มตามระดับ โดยพิจารณาจากรายงานสถานภาพที่ได๎รับ 
๓.๑๑.๕.๕ กองทหารพลาธิการกองพลหรือกองร๎อยสํงกาลังและบริการ กรมสนับสนุนกองพล 
ได๎รับการสนับสนุนสป.๑จากคลัง หรือ ตส.สป.๑ ทภ. เพื่อไปแจกจำยให๎แกํหนํวยใช๎ขึ้นตรงของกองพล 
๓.๑๑.๕.๖ การแจกจำยในระดับนี้มี ๒ วิธี ตามปกติใช๎วิธีการแจกจำย ณ ตาบลสํงกาลัง หรือจำย 
ถึงหนํวยอาจใช๎ทั้ง ๒ แบบผสมกัน แล๎วแตํสถานการณ์จะอานวยให๎ 
๓.๑๑.๕.๗ การทาบัญชีแบํงจำยเพื่อสะดวกในการแจกจำย ถ๎าหนํวยรับการสนับสนุนมีหลาย 
หนํวย ให๎ทาบัญชีแบํงจำยตามแบบพิมพ์ ทบ. ๔๕๖-๕๖๕
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ
คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

ตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริก
ตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริกตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริก
ตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริกThamonwan Theerabunchorn
 
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่Teetut Tresirichod
 
ใบงานอาหารและโภชนาการ
ใบงานอาหารและโภชนาการใบงานอาหารและโภชนาการ
ใบงานอาหารและโภชนาการtassanee chaicharoen
 
การบริหารงานวิชาการ
การบริหารงานวิชาการการบริหารงานวิชาการ
การบริหารงานวิชาการTwatchai Tangutairuang
 
บทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภค
บทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคบทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภค
บทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคOrnkapat Bualom
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์krubuatoom
 
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)sarawu5
 
แบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิง
แบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิงแบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิง
แบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิงสำเร็จ นางสีคุณ
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1sripayom
 
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำเฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำKu'kab Ratthakiat
 
แรงในชีวิตประจำวัน
แรงในชีวิตประจำวันแรงในชีวิตประจำวัน
แรงในชีวิตประจำวันwebsite22556
 
โครงเรื่อง
โครงเรื่องโครงเรื่อง
โครงเรื่องjustymew
 
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนTunggy
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)
ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)
ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)Nattakorn Sunkdon
 
บท5แรงในชีวิตประจำวัน
บท5แรงในชีวิตประจำวันบท5แรงในชีวิตประจำวัน
บท5แรงในชีวิตประจำวันWichai Likitponrak
 
Unit3 elasticity
Unit3 elasticityUnit3 elasticity
Unit3 elasticitysavinee
 

Mais procurados (20)

การฝึกบุคคลท่าอาวุธ
การฝึกบุคคลท่าอาวุธการฝึกบุคคลท่าอาวุธ
การฝึกบุคคลท่าอาวุธ
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริก
ตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริกตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริก
ตัวอย่างแผนธุรกิจน้ำพริก
 
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่
บทที่ 6 การออกแบบกระบวนการใหม่
 
การฝึกท่ามือเปล่า
การฝึกท่ามือเปล่าการฝึกท่ามือเปล่า
การฝึกท่ามือเปล่า
 
ใบงานอาหารและโภชนาการ
ใบงานอาหารและโภชนาการใบงานอาหารและโภชนาการ
ใบงานอาหารและโภชนาการ
 
การบริหารงานวิชาการ
การบริหารงานวิชาการการบริหารงานวิชาการ
การบริหารงานวิชาการ
 
บทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภค
บทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคบทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภค
บทที่ 5 ทฤษฎีว่าด้วยพฤติกรรมผู้บริโภค
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
 
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
Physical fitness(การทดสอบสมรรถภาพ)
 
แบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิง
แบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิงแบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิง
แบบสอบถาม การสูบบุหรี่ นักเรียนหญิง
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย  ป.5   ใหม่1
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทย ป.5 ใหม่1
 
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำเฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
 
ดนตรีไทยสมัยรัตน
ดนตรีไทยสมัยรัตนดนตรีไทยสมัยรัตน
ดนตรีไทยสมัยรัตน
 
แรงในชีวิตประจำวัน
แรงในชีวิตประจำวันแรงในชีวิตประจำวัน
แรงในชีวิตประจำวัน
 
โครงเรื่อง
โครงเรื่องโครงเรื่อง
โครงเรื่อง
 
ไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสสลับไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสสลับ
 
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
 
ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)
ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)
ตัวอย่างแผนธุรกิจการทำปุ๋ยอินทรีย์จากน้ำปลา(Manure fish)
 
บท5แรงในชีวิตประจำวัน
บท5แรงในชีวิตประจำวันบท5แรงในชีวิตประจำวัน
บท5แรงในชีวิตประจำวัน
 
Unit3 elasticity
Unit3 elasticityUnit3 elasticity
Unit3 elasticity
 

Destaque

Lแบบธรรมเนียมทหาร
LแบบธรรมเนียมทหารLแบบธรรมเนียมทหาร
Lแบบธรรมเนียมทหารi_cavalry
 
การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55
การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55
การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55Nona Khet
 
แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)
แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)
แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)peter dontoom
 
การเขียนเซต2
การเขียนเซต2การเขียนเซต2
การเขียนเซต2knawarat
 
เอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหาร
เอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหารเอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหาร
เอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหารตะหลึ่ง' ตึ่งโป๊ะ
 
การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง
การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง
การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง ตะหลึ่ง' ตึ่งโป๊ะ
 
Ayatahan
AyatahanAyatahan
Ayatahangoogolf
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อKruthai Kidsdee
 

Destaque (10)

Lแบบธรรมเนียมทหาร
LแบบธรรมเนียมทหารLแบบธรรมเนียมทหาร
Lแบบธรรมเนียมทหาร
 
การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55
การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55
การจำหน่ายพัสดุ พันจ่าอาชีพพลาฯ 55
 
แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)
แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)
แบบทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (เฉลย)
 
การเขียนเซต2
การเขียนเซต2การเขียนเซต2
การเขียนเซต2
 
เอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหาร
เอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหารเอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหาร
เอกสารโครงการประกอบเลี้ยงปลอดภัยในหน่วยทหาร
 
การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง
การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง
การปรับเปลี่ยนสีของน้ำมันเชื้อเพลิง
 
Ayatahan
AyatahanAyatahan
Ayatahan
 
นขต.ทร
นขต.ทรนขต.ทร
นขต.ทร
 
สอนติว 3 ส.ค.2557
สอนติว 3 ส.ค.2557สอนติว 3 ส.ค.2557
สอนติว 3 ส.ค.2557
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
 

Semelhante a คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ

ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51
ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51
ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51miniindy
 
ทบทวนวิชา..
ทบทวนวิชา..ทบทวนวิชา..
ทบทวนวิชา..miniindy
 
Dpu research present
Dpu research presentDpu research present
Dpu research presentnattawat_w
 
Dpu research present
Dpu research presentDpu research present
Dpu research presentnattawat_w
 
Aaสุขศึกษา 1.53
Aaสุขศึกษา 1.53Aaสุขศึกษา 1.53
Aaสุขศึกษา 1.53Wee Boon
 

Semelhante a คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ (7)

ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51
ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51
ทบทวนวิชาวิทยาการทหาร51
 
ทบทวนวิชา..
ทบทวนวิชา..ทบทวนวิชา..
ทบทวนวิชา..
 
Dpu research present
Dpu research presentDpu research present
Dpu research present
 
Dpu research present
Dpu research presentDpu research present
Dpu research present
 
Aaสุขศึกษา 1.53
Aaสุขศึกษา 1.53Aaสุขศึกษา 1.53
Aaสุขศึกษา 1.53
 
new
newnew
new
 
new
newnew
new
 

คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกำลังสาย พธ.สู่ความเป็นเลิศ

  • 1. ๑ คู่มือ การจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกาลังสาย พลาธิการ สู่ความเป็นเลิศ โดย กรมพลาธิการทหารบก พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘
  • 2. ๒ คู่มือการจัดการองค์ความรู้ เพื่อการปฏิบัติงานส่งกาลังสายพลาธิการ สู่ความเป็นเลิศ ๑. ส่วนการส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ สายพลาธิการ บทที่ ๑ กล่าวนา หน้า ๓ บทที่ ๒ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการส่งกาลัง ๙ บทที่ ๓ การส่งกาลัง สป.๑ ตอนที่ ๑ ระเบียบปฏิบัติในยามปกติ ๑๑ ตอนที่ ๒ ระเบียบปฏิบัติในสนาม ๑๗ บทที่ ๔ การส่งกาลัง สป.๓ ๒๓ บทที่ ๕ การส่งกาลัง สป.๒-๔ สายพลาธิการ ๓๗ บทที่ ๖ การส่งกาลัง สป. ทางอากาศ ๔๖ บทที่ ๗ การซ่อมบารุงสาย พธ. ตอนที่ ๑ ระเบียบปฏิบัติในยามปกติ ๖๕ ตอนที่ ๒ ระเบียบปฏิบัติในสนาม ๖๙ บทที่ ๘ การจัดซื้อและจ้าง ๗๑ ๒. ส่วนการศึกษา รร.พธ.พธ.ทบ. หน๎า ๘๑ นโยบายและการดาเนินการตามแผนงานโครงการ ๓. ส่วนวิจัยและพัฒนา หน๎า ๘๗ โครงการพัฒนาคุณสมบัติผ้าสีพราง (สาหรับตัดเครื่องแบบสนาม ) ของกรมพลาธิการทหารบก ด้าน การต้านการยับ/ด้านการทนไฟ และการป้องกันการตรวจจับด้วยกล้องตรวจ -การณ์กลางคืน
  • 3. ๓ บทที่ ๑ ๑. กลำวนา สืบเนื่องจากพระราชกฤษฎีกาวำด๎วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ๎านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๔๖ มาตรา๑๑กาหนดไว๎วำ “สํวนราชการมีหน๎าที่พัฒนาความรู๎ในสํวนราชการเพื่อให๎มีลักษณะเป็นองค์กรแหํงการ เรียนรู๎อยำงสงำเสมอโดยต๎องรับรู๎ข๎อมูลขำวสารและสามารถประมวลผลความรู๎ในด๎านตำงๆ เพื่อนามาประยุกต์ ใช๎ในการปฏิบัติราชการได๎อยำงถูกต๎องรวดเร็วและเหมาะสมตํอสถานการณ์รวมทั้งต๎องสํงเสริมและพัฒนา ความรู๎ความสามารถสร๎างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข๎าราชการในสังกัดให๎เป็นบุคลากรที่มี ประสิทธิภาพ และมีการเรียนรู๎รํวมกันทั้งนี้จึงได๎นาการจัดการความรู๎(Knowledge Management) มาเป็น เครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรของกรมพลาธิการทหารบกและได๎สนับสนุนให๎ทุกหนํวยมีการจัดการ ความรู๎อยำงเป็นระบบเพื่อชํวยในการพัฒนาขีดความสามารถของกาลังพลโดยให๎หนํวยตำงๆดาเนินการตาม แนวทางและแผนงานการจัดความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก เพื่อให๎ กรมพลาธิการทหารบก เป็นองค์กร แหํงการเรียนรู๎เป็นที่มาขององค์ความรู๎ (Knowledge) และนวัตกรรม (Innovation) ที่จะชํวยให๎การ ปฏิบัติงานตามพันธกิจที่ กรมพลาธิการทหารบกรับผิดชอบมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงขึ้นและยังเป็น การเพิ่มขีดความสามารถ/ขีดสมรรถนะของ กรมพลาธิการทหารบก ๒. แนวทางการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกแนวทางในการจัดการความรู๎สอดคล๎องกับแนวทาง และแผนงานการจัดการความรู๎ของทบ. ซึ่งกาหนดขั้นตอนการดาเนินการตั้งแตํปี๒๕๕๖-๕๘โดยมีแนวทางการ จัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกดังนี้ ๒.๑ แตํงตั้งคณะกรรมการการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกโดยมี จก.พธ.ทบ. และ คณะกรรมการการจัดการความรู๎ของ พธ.ทบ.มีหน๎าที่ในการกาหนดแผนกลยุทธ์ในการดาเนินการจัดการความรู๎ ของ พธ.ทบ. เพื่อให๎การดาเนินการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกประสบผลสาเร็จเป็นรูปธรรมตาม นโยบายของผบ.ทบ. รวมทั้งอานวยการและกากับดูแลการดาเนินการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก ให๎เป็นไปตามเปูาหมายของแผนกลยุทธ์การจัดการความรู๎ที่กาหนด ๒.๒ จัดการบรรยายเชิงวิชาการสามารถเพิ่มศักยภาพในการทางานให๎แกํองค์กรเพื่อให๎คณะกรรมการ จัดการความรู๎และกาลังพลของ กรมพลาธิการทหารบกมีความรู๎ความเข๎าใจในหลักการของ การจัดการความรู๎ และประสบการณ์ในการนามาปฏิบัติได๎รับทราบปัญหาตำงๆในการดาเนินการ และแนวทางในการแก๎ไขปัญหา ๒.๓ ระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการการจัดการความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก เพื่อกาหนดแผนกล ยุทธ์การจัดการความรู๎โดยนาความรู๎และประสบการณ์ที่ได๎รับจากการฟังบรรยายมาประยุกต์ให๎เหมาะสมกับ ภารกิจลักษณะงานประเภทความรู๎และระบบการทางานของกรมพลาธิการทหารบก ๒.๔ กาหนดวิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก ประเมินตนเองและวิเคราะห์ ปัจจัยตำงๆที่เกี่ยวข๎องกับการจัดการความรู๎ (SWOT Analysis) เพื่อให๎ทราบจุดแข็ง-จุดอํอน / โอกาส- อุปสรรค ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญในการจัดทาแผนกลยุทธ์ และความสาเร็จในการดาเนินการจัดการความรู๎ให๎ บรรลุผลตามวิสัยทัศน์และเปูาหมายของการจัดการความรู๎ ๒.๕ ผู๎บังคับบัญชาทุกระดับของ กรมพลาธิการทหารบก จะรํวมกันผลักดันให๎เกิดการบูรณการของ กระบวนการจัดการความรู๎ (KM Process) ทั้งหมดให๎ยึดถือปฏิบัติและซึมทราบอยูํในกระบวนการทางาน (Work Process) รวมถึงบูรณการกระบวนการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management Process) ให๎เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานเพื่อให๎กรมพลาธิการทหารบกเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ที่ยั่งยืนตลอดไป
  • 4. ๔ ๓. ขอบเขตและเปูาหมายการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก การจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกมีขอบเขตความรู๎เกี่ยวกับการปฎิบัติงานสํงกาลังสาย พลาธิการมุํงความเป็นเลิศ ได๎แกํ การสํงกาลังและบริการ งานซํอมบารุงการบริหารจัดการสํงกาลัง การฝึก ศึกษาและตาราเรียนระบบการสํงกาลัง และเทคโนโลยีโดยมีเปูาหมายอยูํที่การรวบรวมกลั่นกรองและเผยแพรํให๎ คาแนะนามาตรฐานและข๎อกาหนดในการควบคุมคุณภาพเอกสารและบทความทางวิชาการที่เกี่ยวข๎องกับการ ปฏิบัติงานของหนํวยตำงๆในกรมพลาธิการทหารบก ๓.๑ เปูาหมายการจัดการความรู๎ . ๓.๑.๑ เพื่อพัฒนาระบบงานของกรมพลาธิการทหารบกให๎มีประสิทธิภาพประสิทธิผลและใช๎ เครือขำยเป็นศูนย์กลางชํวยเพิ่มประสิทธิภาพการปฎิบัติหน๎าที่ขององค์กร ๓.๑.๒ เพื่อพัฒนาศักยภาพกาลังพลของกรมพลาธิการทหารบกให๎สามารถทางานอยำง ผู๎รู๎จริงพัฒนาระบบและกระบวนการในการทางาน ๓.๑.๓ เพื่อพัฒนากาลังพลของกรมพลาธิการทหารบกให๎เป็นผู๎รักการเรียนรู๎เป็นผู๎ใฝุรู๎ มีความ กระตือรือร๎นที่จะเรียนรู๎สิ่งใหมํๆ ๓.๑.๔ เพื่อพัฒนากรมพลาธิการทหารบกให๎เป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎มีฐานความรู๎สาหรับ เผยแพรํและแลกเปลี่ยนเรียนรู๎รํวมกัน ๓.๒ วิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ “มุํงบริหารจัดการองค์ความรู๎พัฒนาเครือขำยและศูนย์กลางการเรียนรู๎โดยใช๎วิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อความเป็นเลิศด๎านการสํงกาลังสายพลาธิการและบริการ อยำงยั่งยืน” ๔. การวิเคราะห์ SWOT ANALYSIS เป็นการวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอํอน/ โอกาส-อุปสรรคที่เกี่ยวข๎องกับการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการ ทหารบกซึ่งจะเป็นปัจจัยสาคัญและมีผลตํอการจัดทาแผนกลยุทธ์และความสาเร็จในการจัดการความรู๎ จุดแข็ง (S - Strengths) - ผู๎บังคับบัญชาระดับสูงเห็นความสาคัญและสนับสนุนการจัดการความรู๎ - มีบุคลากรที่มีความรู๎ และความเชี่ยวชาญในการสํงกาลังและซํอมบารุงเป็นอยำงดีและเป็นที่ยอมรับ ระดับทบ. - มีการดาเนินการหลายอยำงที่เป็นสํวนหนึ่งของกระบวนการจัดการความรู๎อยูํแล๎ว - พธ.ทบ. เป็นต๎นแบบการสํงกาลังบารุง ซึ่งมีความสาคัญตํอเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ - พธ.ทบ.พร๎อมเข๎าสูํประชาคมอาเซียนเป็นแหลํงถำยทอดความรู๎การสํงกาลังสายพลาธิการ จุดอํอน (W - Weaknesses) - ขาดแดลนบุคลากรด๎านการจัดการองค์ความรู๎ระหวำงหนํวยงาน - ระบบราชการทาให๎กาลังพลขาดแรงจูงใจในการพัฒนาความรแู๎ละและขาดความคิดริเริ่ม - ไมํมีการดาเนินงานการวิจัยอยำงเป็นรูปธรรม - ข๎อจากัดด๎านงบประมาณสนับสนุนการดาเนินกิจกรรมและการจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่อง สื่อสารและเครื่องคอมพิวเตอร์ - กาลังพลระดับผู๎ปฏิบัติยังขาดความสนใจที่จะแสวงหาความรู๎เพื่อปรับปรุงการทางานของตนเอง - ขาดการจัดการฐานข๎อมูลในการสํงกาลังและซํอมบารุง - กาลังพลสํวนใหญํยังไมํเข๎าใจและไมํเห็นความสาคัญของการจัดการความรู๎ โอกาส (O - Opportunities)
  • 5. ๕ - นโยบายกองทัพบกกาหนดให๎หนํวยงานเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ตามพ.ร.ฎ. การบริหารกิจการบ๎านเมือง ที่ดีฯ - หนํวยงานและองค์กรภายนอกยกยํองให๎กรมพลาธิการทหารบกเป็นหนํวยงานที่มีความสามารถและมี ชื่อเสียงในงานสํงกาลังและซํอมบารุง - เป็นการดาเนินการที่มุํงไปสูํวิสัยทัศน์ของกองทัพบก และเอื้ออานวยเป็นแหลํงถำยทอดความรู๎สาย พธ. - แสวงหาความรํวมมือทางวิชาการกับหนํวยงานภาครัฐและเอกชน งำยตํอการพัฒนาเทคโนโลยีและ นวัตกรรม อุปสรรค (T - Threats) - การเปลี่ยนแปลงผู๎บริหารหรือผู๎บังคับบัญชาทั้งภายในกรมพลาธิการทหารบกทาให๎การผลักดันนโยบาย ที่มีผลในการปฏิบัติขาดความตํอเนื่อง - ระบบการบริหารงานแบบราชการซึ่งมีสายการบังคับบัญชาที่หำงกันมากทาให๎ขาดความใกล๎ชิดและการ สื่อสารระหวำงผู๎บังคับบัญชาผู๎กาหนดนโยบายและกาลังพลผู๎ปฏิบัติ - การปฏิบัติตามระเบียบราชการทาให๎การดาเนินการตำงๆขาดความคลํองตัวไมํมีประสิทธิภาพ เทำที่ควร - บุคลากรที่มีความรู๎ความสามารถลาออกจากราชการไปทางานในภาคเอกชนซึ่งมีแรงจูงใจในการทางาน มากกวำ - คุณภาพชีวิตในด๎านตำงๆของกาลังพลที่ลดลงมีผลตํอการอุทิศตนให๎กับองค์กรและการพัฒนาการ ทางานให๎มีประสิทธิภาพมากขึ้น - ระบบเศรษฐกิจไมํเอื้ออานวยในการสํงกาลังบารุง STRENGTHS – OPPORTUNITIES (SO) STRATEGY นโยบายรัฐบาลที่กาหนดให๎หนํวยงานของรัฐต๎องเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ตามพระราชกฤษฎีกาวำด๎วย หลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ๎านเมืองที่ดีฯ ซึ่งผู๎บังคับบัญชาระดับสูงทั้งระดับกองทัพบก และ กรม พลาธิการทหารบกได๎ให๎ความสาคัญกับการจัดการความรู๎และการที่กรมพลาธิการทหารบกมีความพร๎อมในด๎าน บุคลากรองค์ความรู๎และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในงานสํงกาลัง และซํอมบารุงระบบจัดหายุทโธปกรณ์ และ เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งมีการดาเนินการหลายอยำงที่เป็นสํวนหนึ่งของ กระบวนการจัดการความรู๎อยูํแล๎ว จะ เป็นปัจจัยสาคัญที่นามาใช๎ในการประเมินตนเองและชี้ให๎เห็นถึงโอกาสของผลสาเร็จในการดาเนินการจัดการ ความรู๎กรมพลาธิการทหารบก จะสามารถบรรลุวิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ และเป็นองค์กรแหํงการเรียนรู๎ที่ ยั่งยืน นอกจากนั้นแล๎ว การวิเคราะห์ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่กลำวมาทั้งหมด จะเป็นสํวนสาคัญใน การพิจารณากาหนดกลยุทธ์แผนงานและโครงการ/กิจกรรมในการปฏิบัติตำงๆ กลยุทธ์ ๑. ตั้งคณะกรรมการการจัดการความรู๎ ขึ้นรับผิดชอบการดาเนินการการจัดการความรู๎ในด๎านตำง ๆ ให๎เป็นไปตามแผนกลยุทธ์การจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก ๒. สร๎างความรู๎สึกการเป็นเจ๎าของรํวมกันในวิสัยทัศน์การจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก เพื่อนาไปสูํเปูาหมายเดียวกันในการจัดการความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก ๓. ปลุกจิตสานึกของกาลังพลให๎เกิดความรู๎สึกภาคภูมิใจในการเป็นบุคลากรของกรมกรมพลาธิการ ทหารบก ซึ่งมีความสามารถและผลงานโดดเดํนในงานสํงกาลังและซํอมบารุง ระบบการจัดหายุทโธปกรณ์ และ เครื่องคอมพิวเตอร์มีความมุํงมั่นในการพัฒนากรมพลาธิการทหารบกไปสูํความเป็นเลิศในงานสํงกาลังและซํอม บารุง ระบบจัดหายุทโธปกรณ์ และเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อรักษาชื่อเสียงของกรมพลาธิการทหารบก
  • 6. ๖ ๔. สร๎างกิจกรรมการเรียนรู๎ที่สอดคล๎องกับภารกิจและวิธีปฏิบัติงานของกาลังพล เพื่อนาไปสูํการสร๎าง ฐานความรู๎ของกรมพลาธิการทหารบกให๎เกิดผลสาเร็จโดยเร็ว ๕. ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให๎ทันสมัยและเพียงพอในการสร๎างฐานความรู๎และเครือขำย การเรียนรู๎ของกรมพลาธิการทหารบก และสํงเสริมให๎กาลังพลใช๎เครือขำยการเรียนรู๎ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู๎ ๖. สร๎างวัฒนธรรมและบรรยากาศการเรียนรู๎ให๎เกิดขึ้นในสภาพแวดล๎อมการทางานของ กรมพลาธิการ ทหารบก ๗. สอดแทรกกิจกรรมการเรียนรู๎ในทุกขั้นตอนของกระบวนการทางาน ในหนํวยงานทุกระดับของกรม พลาธิการทหารบก ๘. กาหนดแผนปฎิบัติและเสนอความต๎องการงบประมาณเพื่อรองรับแผนกลยุทธ์การจัดการความรู๎ของ กรมพลาธิการทหารบก มีการติดตามประเมินผลและสัมมนาประจาปีรํวมกันของคณะกรรมการการจัดการความรู๎ สรุปผลการดาเนินการในรอบปีที่ผำนมา เพื่อปรับกลยุทธ์และแผนปฏิบัติในรอบปีถัดไปให๎มีประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
  • 7. ๗ กรมพลาธิการทหารบก วิสัยทัศน์ กรมพลาธิการทหารบก เป็นหนํวยงานที่มีความก๎าวหน๎าและเชี่ยวชาญด๎านการจัดซื้อ จัดจ๎าง การสํงกาลังบารุง และบริการที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร๎างศักยภาพกาลังพล เพื่อพัฒนากิจการสายพลาธิการ ไปสูํความเป็นเลิศ พร๎อมด๎านการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช๎อยำงเหมาะสม ภารกิจ กรมพลาธิการทหารบก มีหน๎าที่ วางแผน อานวยการ ประสานงาน แนะนา กากับการ ดาเนินการ วิจัยและ พัฒนาเกี่ยวกับการผลิต จัดหา สํงกาลัง ซํอมบารุง การบริการ กาหนดหลักนิยมและทาตารา ตลอดจนการฝึก และศึกษา ทั้งนี้ เกี่ยวกับกิจการและสิ่งอุปกรณ์ของเหลำทหารพลาธิการ โดยมีขอบเขตความรับผิดชอบและ หน๎าที่สาคัญดังนี้.- - เสนอนโยบาย วางแผน อานวยการ ประสานงาน แนะนา กากับการเกี่ยวกับการกาหนด ความต๎องการ ผลิต จัดหา สํงกาลัง ซํอมบารุง และการบริการสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ - ดาเนินการเกี่ยวกับกิจการของเหลำทหารพลาธิการ - กาหนดหลักนิยม วิจัย และพัฒนา จัดทาตาราและคูํมือเกี่ยวกับวิทยาการสายพลาธิการ - ดาเนินการจัดหา ผลิต และซํอมบารุงสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ - วางแผน อานวยการ จัดทาและปรับปรุงหลักสูตร ตลอดจนดาเนินการให๎การศึกษาเหลำ ทหารพลาธิการ - ดาเนินการเกี่ยวกับสถานพักผํอนตามที่ได๎รับมอบ - ดาเนินการเกี่ยวกับการเกษตรกรรมเพื่อสนับสนุนการผลิต และสนับสนุนหนํวยตำงๆ ใน กองทัพบกตามที่ได๎รับมอบ วัตถุประสงค์ - สร๎างความนำเชื้อถือในการให๎การสนับสนุนการสํงกาลังบารุง - มุํงเน๎นคุณภาพในทุกรายละเอียดของการสํงกาลังบารุงและบริการ - สามารถตรวจสอบข๎อมูลได๎ด๎วยความถูกต๎อง - เพิ่มประสิทธิภาพด๎านการบริหารจัดการข๎อมูลขำวสารด๎านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม %%%%%%%%%%%%%%%
  • 9. ๙ บทที่ ๒ การส่งกาลังสายพลาธิการ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการส่งกาลัง ๒.๑ ประเภทสิ่งอุปกรณ์ สิ่งอุปกรณ์ (Supplies) หมายถึง สิ่งของทั้งปวงที่จาเป็นในการจัดจำยให๎แกํหนํวย ทหารในการดารงอยูํ และการปฏิบัติงานของหนํวยทหารนั้น กองทัพบก จึงแบํงสิ่งอุปกรณ์ออกเป็นประเภทตำง ๆ ซึ่งไมํเหมือนกัน ระหวำงอุปกรณ์นอกโครงการ และสิ่งอุปกรณ์ในโครงการ ๒.๑.๑ สิ่งอุปกรณ์นอกโครงการ หมายถึง อุปกรณ์ที่จัดในกองทัพบก นอกเหนือจากโครงการชํวยเหลือ ทางราชการจากตำงประเทศ แบํงออกเป็น ๕ ประเภท ดังตํอไปนี้ ๒.๑.๑.๑ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ได๎แกํเสบียงสาหรับคนและสัตว์ ๒.๑.๑.๒ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๒ ได๎แกํ (สิ่งอุปกรณ์ตามอัตรา) สิ่งของที่จำยไว๎ประจาหนํวยหรือ ประจากาย ตามที่ ทบ. กาหนดไว๎เป็นอัตราจำยให๎แกํหนํวยทหาร โดยระบุไว๎ใน อจย. หรือ อสอ. หรือบัญชีแบํง มอบอื่นๆ เชํน อาวุธ ,ยานพาหนะ ,วิทยุ เป็นต๎น ๒.๑.๑.๓ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๓ ได๎แกํน้ามันเชื้อเพลิงและน้ามันอุปกรณ์ตำง ๆ ที่อยูํในความรับผิดชอบ ทางการสํงกาลังของ พธ.ทบ. ซึ่งใช๎เกี่ยวกับยานยนต์เครื่องจักรกล เครื่องบิน เครื่องให๎แสงสวำงและ เครื่องให๎ความร๎อน เป็นต๎น ๒.๑.๑.๔ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๔ ได๎แกํ (สิ่งอุปกรณ์นอกอัตรา) สิ่งอุปกรณ์รายการที่ ทบ.มิได๎ กาหนดอัตราจำยให๎แกํหนํวยเป็นประจา แตํเป็นสิ่งอุปกรณ์ที่จะต๎องจัดหาเป็นครั้งคราวเพื่อตอบสนองความ ต๎องการแกํหนํวย เชํน เครื่องแตํงกายพิเศษ ,อาวุธพิเศษ ,ยานพาหนะพิเศษ และวัสดุปูอมสนาม เป็นต๎น ๒.๑.๑.๕ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๕ ได๎แกํ กระสุน และวัตถุระเบิด วัตถุเคมี ซึ่งอยูํในความรับผิดชอบ ทางการสํงกาลังของ สพ.ทบ. และ วศ.ทบ. เชํน กระสุน ,ระเบิดขว๎าง ,พลุ ,ดินระเบิด เป็นต๎น ๒.๒ สิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ ตามระเบียบกองทัพบกวำด๎วยความรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๕๕ กาหนดความรับผิดชอบในการ กาหนดความต๎องการ, การควบคุม, การจัดหา, การเก็บรักษา, การแจกจำย, การจาหนำย และการซํอมบารุงสิ่ง อุปกรณ์ดังรายการตํอไปนี้ ๒.๒.๑ อาหาร ๒.๒.๒ เครื่องใช๎ในการเลี้ยงดูและประกอบอาหารตลอดจนอุปกรณ์ในการเก็บรักษาเสบียงเว๎นก๏าซให๎ความ ร๎อน
  • 10. ๑๐ ๒.๒.๓ เครื่องแตํงกาย เครื่องนอน เครื่องใช๎ประจากายและประจาหนํวย ซึ่งเป็นจาพวกหนังและสิ่งถักทอ เว๎นเครื่องแตํงกายที่ใช๎ในการปูองกันสงครามเคมี ชีวะ และรังสี ๒.๒.๔ อุปกรณ์สาหรับใช๎สํงทางอากาศ ๒.๒.๕ น้ามันเชื้อเพลิงและน้ามันอุปกรณ์ ๒.๒.๖ เครื่องมือเครื่องใช๎กิจการน้ามัน เว๎นเครื่องมือเครื่องใช๎ในการสํงกาลังทางทํอ ๒.๒.๗ ปั้มสูบจำยน้ามันเชื้อเพลิง ๒.๒.๘ ครุภัณฑ์ เครื่องใช๎ในสานักงานและอาคารบ๎านพัก ๒.๒.๙ เครื่องเขียน เว๎นแบบพิมพ์และกระดาษที่ใช๎ในกิจการแผนที่ ๒.๒.๑๐ เครื่องบริการซักรีด ๒.๒.๑๑ เครื่องอาบน้า อุปกรณ์การอาบน้าและเครื่องใช๎สิ้นเปลืองในห๎องน้า ๒.๒.๑๒ รถยกของ และเครื่องทุํนแรงที่ใช๎ในกิจการคลังสิ่งอุปกรณ์ ๒.๒.๑๓ วัสดุทาความสะอาด เชํน ยาขัดหนัง ยาขัดโลหะ ผ๎าทาความสะอาดโรงเรือนและสิ่งอุปกรณ์ เป็น ต๎น เว๎นที่กาหนดไว๎ในสายงานอื่น ๒.๒.๑๔ เครื่องมือเครื่องใช๎และอุปกรณ์ในการผลิต สร๎าง ทดสอบ และซํอมบารุงสิ่งอุปกรณ์ตำง ๆ ตามข๎อ ๒.๒.๑ ถึง ๒.๒.๑๕ ๒.๒.๑๕ สิ่งอุปกรณ์รายการใดที่ไมํสามารถอนุโลมเข๎าอยูํในสายงานอื่นใด
  • 11. ๑๑ บทที่ ๓ การส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ตอนที่ ๑ ระเบียบปฏิบัติในยามปกติ ๓.๑ ความมุํงหมาย การสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบกวำด๎วยการเลี้ยงดูทหาร พ.ศ.๒๕๔๙ มุํงหมายเพื่อให๎การประกอบเลี้ยงให๎แกํกาลังพลของกองทัพบก โดยใช๎เงินจากเบี้ยเลี้ยงเป็นไปด๎วยความเรียบร๎อย มีความรัดกุม โปรํงใส และตรวจสอบได๎ ทั้งนี้เพื่อให๎เจ๎าของเงินเบี้ยเลี้ยงได๎รับประโยชน์สูงสุดจากการประกอบเลี้ยง รวมทั้งได๎รับประทานอาหารที่มีคุณคำตามหลักโภชนาการและถูกสุขอนามัย ๓.๒ คาจากัดความ ๓.๒.๑ “อาหาร” หมายถึง สิ่งที่ทหารใช๎บริโภคประจาวัน ให๎ประโยชน์แกํรำงกาย เชํน ข๎าว ผัก ผลไม๎ เนื้อสัตว์ ของแห๎ง ของเค็ม และเครื่องปรุงทุกชนิด ๓.๒.๒ “เสบียง” ประกอบด๎วยอาหารชนิดตำงๆ ที่ใช๎ในการเลี้ยงดูทหารมีคุณคำและปริมาณอาหารเพียงพอ ตํอความต๎องการของรำงกาย ๑ คนตํอวัน แบํงเป็นเสบียงประเภทตำงๆ ตามลักษณะการใช๎ เป็น ๕ ประเภท ดังนี้.- ๓.๒.๒.๑ เสบียง ก. หมายถึง อาหารสดและอาหารแห๎งทุกชนิดซึ่งใช๎บริโภคประจาวันตามรายการ อาหาร กํอนรับประทานต๎องทาการหุงต๎มเสียกํอน ๓.๒.๒.๒ เสบียง ข. หมายถึง อาหารที่บรรจุกระป๋อง หรือภาชนะอื่นใดในลักษณะทานองเดียวกันนี้ สามารถเก็บรักษาไว๎ได๎นานในอุณหภูมิปกติ กํอนรับประทานอาจต๎องประกอบหรือปรุงบ๎างเล็กน๎อย ๓.๒.๒.๓ เสบียง ค. หมายถึง อาหารสาเร็จรูปจำยเป็นชุด รับประทานได๎ทันที โดยไมํต๎องทาการ หุงต๎มใด ๆ ๓.๒.๒.๔ เสบียง ง. หมายถึง อาหารที่ยํอยงำยใช๎เป็นอาหารบารุงรำงกายสาหรับผู๎ปุวย ๓.๒.๒.๕ เสบียงพิเศษ หมายถึง เสบียงสาหรับแจกจำยให๎หนํวยตำงๆที่ปฎิบัติการรบพิเศษ หรือ เสบียงอื่นใดที่กองทัพบกให๎การสนับสนุนโดยไมํต๎องใช๎เงินคำเสบียงสนามหรือเงินคำเลี้ยงดูสนาม ๓.๒.๓ “หนํวยประกอบเลี้ยง” หมายถึง หนํวยทหารซึ่งเบิกรับหรือได๎รับอนุมัติให๎จัดหาอาหารมาประกอบ เลี้ยงอาหาร หนํวยระดับกองพันหรือเทียบเทำขึ้นไป หนํวยระดับกองร๎อยหรือเทียบเทำที่ปฏิบัติงาน โดยอิสระ หรือหนํวยระดับกองร๎อยหรือเทียบเทำซึ่งเป็นหนํวยขึ้นตรงของหนํวยตั้งแตํระดับกรมขึ้นไป ที่มีความพร๎อมทั้ง ด๎านสถานที่ สิ่งอุปกรณ์ เจ๎าหน๎าที่ในการเลี้ยงดูอาหาร และได๎รับการอนุมัติให๎ทาการเลี้ยงดูทหาร จากหนํวย บังคับบัญชาที่เป็นหนํวยขึ้นตรงของกองทัพบก ๓.๒.๔ “หนํวยแจกจำย” หมายถึง หนํวยที่มีเจ๎าหน๎าที่จัดหาสะสมและแจกจำยอาหารเชื้อเพลิงสนับสนุน หนํวยประกอบเลี้ยงในเขตรับผิดชอบ ได๎แกํ กรมพลาธิการทหารบก กองบัญชาการชํวยรบ มณฑลทหารบก และจังหวัดทหารบก ๓.๒.๕ “เกณฑ์จำยอาหาร” หมายถึง ปริมาณอาหารชนิดตำงๆ ซึ่งกรมพลาธิการทหารบกกาหนดขึ้น สาหรับให๎จำยทหาร โดยพิจารณาจากความต๎องการอาหารประจาวันของแตํละคน ๓.๒.๖ “จานวนเบิกอาหาร” หมายถึง จานวนอาหารซึ่งหนํวยประกอบเลี้ยงแจ๎งลํวงหน๎าไปยังหนํวย แจกจำย ตามเวลาหนํวยแจกจำยกาหนด เพื่อขอรับอาหารมาทาการประกอบเลี้ยง และหนํวยแจกจำยใช๎เป็น ยอดจำยอาหารและคิดเงินด๎วย ๓.๒.๗ “จานวนเงินเบี้ยเลี้ยงได๎” หมายถึง จานวนทหารที่มีอยูํตามยอดกาลังพลประจาวันของหนํวย ประกอบเลี้ยง นาสํงตํอหนํวยแจกจำย
  • 12. ๑๒ ๓.๒.๘ “จานวนรับประทานจริง” หมายถึง จานวนทหารซึ่งรับประทานอาหารของหนํวยประกอบเลี้ยง แตํละมื้อ ๓.๓ ความรับผิดชอบในการสํงกาลัง ๓.๓.๑ ผู๎บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต๎องรับผิดชอบในกิจกรรมเลี้ยงดูทหารในหนํวยของตนให๎เป็นไปตาม ระเบียบ มีความรัดกุม โดยคานึงถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เป็นผลดี แกํทหารมากที่สุด และรับทราบผล การดาเนินการอยูํเสมอ ระเบียบนี้ประสงค์ที่จะให๎ผู๎บังคับหนํวยทุกระดับชั้น ใช๎ความเป็นผู๎นาหนํวยดาเนินการ บริหารจัดการงานทั้งปวง โดยใช๎หลักธรรมาภิบาล จึงมีการกาหนดการควบคุมจากระดับบังคับบัญชาที่สูงกวำ คํอนข๎างน๎อย ทั้งนี้ต๎อง ให๎มีการควบคุมกันเองภายในหนํวย ๓.๓.๒ กรมพลาธิการทหารบก มีหน๎าที่อานวยการ,ดาเนินการ และกากับการให๎การเลี้ยงดูเป็นไปด๎วย ความเรียบร๎อย โดยปฏิบัติดังนี้.- ๓.๓.๒.๑ เสนอแนะนโยบายการเลี้ยงดูแกํกองทัพบก และจัดทาวิธีการปฏิบัติปรับปรุงระดับ มาตรฐานการเลี้ยงดู ทุกขั้นตอนและทุกระดับหนํวย (เว๎นการเลี้ยงดูทหารเจ็บปุวยของโรงพยาบาลทหารและ สถานพยาบาลทหาร) ๓.๓.๒.๒ จัดทาคูํมือการปฏิบัติ ข๎อแนะนา คาชี้แจงเกี่ยวกับการเลี้ยงดูทุกขั้นตอน และทุกหน๎าที่ สูตรอาหาร วิธีประกอบอาหาร และสิ่งที่ใช๎แทนกันได๎ ๓.๓.๒.๓ จัดให๎มีการฝึกอบรม เจ๎าหน๎าที่ซึ่งจะต๎องปฏิบัติในกิจการเลี้ยงดู ๓.๓.๒.๔ กากับกิจการเลี้ยงดูทหารทั่วทั้งกองทัพบก ๓.๓.๒.๕ ตรวจผลงาน ศึกษาพิจารณา, ให๎คาแนะนาเกี่ยวกับกิจการเลี้ยงดู ๓.๓.๒.๖ แก๎ปัญหาข๎อขัดแย๎งของหนํวยตำงๆ เพื่อมิให๎การเลี้ยงดูทหารหยุดชงักหรือเสียหายใดๆ ๓.๓.๒.๗ ตรวจคุณคำอาหารตามใบสรุปเกณฑ์การจำยอาหารประจาเดือน ๓.๓.๓ เจ๎าหน๎าที่สายการแพทย์ของหนํวยตำงๆ มีหน๎าที่ดังตํอไปนี้ ๓.๓.๓.๑ สารวจปริมาณอาหารที่ทหารบริโภคจริงๆ วำเพียงพอหรือไมํโดยเลือกทาจากหนํวย ทหารบางแหํง ๓.๓.๓.๒ สอบสวนค๎นคว๎าสาเหตุ เมื่อเกิดอาหารเป็นพิษ หรือโรคทางเดินอาหารระบาดขึ้น ๓.๓.๓.๓ ควบคุมและแนะนาการสุขาภิบาล รวมทั้งการตรวจการ สุขาภิบาลภายในหนํวย ๓.๓.๓.๔ รํวมเป็นกรรมการตรวจรับอาหาร ๓.๓.๓.๕ ตรวจสุขภาพเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยงดู กรมพลาธิการทหารบก กรมแพทย์ทหารบก และกรมการสัตว์ทหารบก รับผิดชอบในการสารวจ ให๎ข๎อเสนอแนะ ข๎อแนะนา และคาชี้แจงตำงๆ ตามสายงานที่รับผิดชอบ เพื่อให๎การเลี้ยงดูทหารของกองทัพบก เป็นไปอยำงมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้อาจกาหนดนโยบายจัดทาคูํมือ/คาชี้แจง สารวจ วิเคราะห์ และประเมิน ตาม อานาจหน๎าที่ และความรับผิดชอบที่ได๎กาหนดไว๎ใน อฉก. ๓.๓.๔ กรมพลาธิการทหารบก กองบัญชาการชํวยรบ มณฑลทหารบก และจังหวัดทหารบก มีหน๎าที่ จัดหา สะสม และแจกจำยอาหารสนับสนุนหนํวยประกอบเลี้ยง ในพื้นที่รับผิดชอบโดยปฏิบัติ ดังนี้ ๓.๓.๔.๑ อานวยการจัดหา และแจกจำยอาหาแกํหนํวยประกอบเลี้ยง โดยมีเจ๎าหน๎าที่สายยุทธ บริการที่เกี่ยวข๎องเป็นผู๎ปฏิบัติ ให๎เป็นไปตามนโยบายที่กาหนด ๓.๓.๔.๒ ปรับปรุง แก๎ไขกิจการเลี้ยงดู ให๎เหมาะสมกับสภาพการณ์ในท๎องถิ่น และเสนอแนะ วิธีการตามสายการสํงกาลังจนถึงกองทัพบก ๓.๓.๔.๓ รายงานผลการปฏิบัติตามกาหนด ๓.๓.๔.๔ หากเห็นเป็นการสมควร ก็อาจแตํงตั้งคณะกร รมการควบคุมการเลี้ยงดูขึ้นคณะหนึ่ง จานวนตามความเหมาะสม ประกอบด๎วยนายทหารชั้นผู๎ใหญํของหนํวยสํวนภูมิภาค และหนํวยประกอบเลี้ยง เพื่อทาหน๎าที่ควบคุมแนะนาการเลี้ยงดู เป็นสํวนรวมภายในคำยทหารก็ได๎
  • 13. ๑๓ ๓.๓.๕ นายทหารกากับการเลี้ยงดู ให๎ผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง แตํงตั้งทหารทาหน๎าที่กากับดูแล และ ตรวจกิจการเลี้ยงดู โดยคัดเลือกนายทหารที่มีความรู๎ และเคยปฏิบัติงานเลี้ยงดูมาแล๎ว ให๎มีหน๎าที่ดังนี้ ๓.๓.๕.๑ กากับดูแลการปฏิบัติการเลี้ยงดู ให๎ทหารได๎รับประโยชน์มากที่สุด แล๎วประเมินคำ ความนิยมของทหาร เกี่ยวกับ ชนิด, ปริมาณ, คุณภาพ, วิธีการปรุงอาหารและอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางสาหรับ เสนอแนะกรมพลาธิการทหารบก ตามความเหมาะสม ๓.๓.๕.๒ รายงานผลการปฏิบัติพร๎อมทั้งเสนอแนะ การแก๎ไขตํอผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยงตาม ระยะเวลา ๓.๓.๕.๓ กากับดูแลการปรนนิบัติบารุง การจาหนำย การเบิกทดแทนสูทภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่ใช๎ ในการประกอบเลี้ยง เพื่อให๎หนํวยได๎มีไว๎ใช๎ตลอดเวลา ๓.๓.๕.๔ เสนอแนะผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง เพื่อให๎เจ๎าหน๎าที่ปฏิบัติงานประกอบเลี้ยงทุก หน๎าที่ได๎รับการอบรมและสามารถทาหน๎าที่แทนกันได๎ ๓.๓.๕.๕ ให๎นายทหารกากับการเลี้ยงดูของหนํวยเหนือ กากับดูแลและหมั่นตรวจเยี่ยม การ ปฏิบัติการเลี้ยงดูของหนํวยรอง ให๎เป็นไปตามแบบธรรมเนียมของทางราชการด๎วย ๓.๔ หนํวยประกอบเลี้ยง ๓.๔.๑ ผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง หมายถึง ผู๎บังคับบัญชาสูงสุด ของหนํวยประกอบเลี้ยง ซึ่งได๎รับ การแตํงตั้งจากผู๎บังคับบัญชาระดับผู๎บัญชาการกองพล หรือเทียบเทำขึ้นไป ๓.๔.๒ การปฏิบัติ ณ โรงประกอบเลี้ยง ๓.๔.๒.๑ หนํวยประกอบเลี้ยงกาหนดระเบียบปฏิบัติประจา เพื่อควบคุมการปฏิบัติ ณ โรง ประกอบเลี้ยง เชํน การปฏิบัติหน๎าที่ของเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง การควบคุมมิให๎ ข๎าวสาร เชื้อเพลิง อาหาร ภาชนะ เครื่องใช๎ในการเลี้ยงดูสูญหาย เป็นต๎น ๓.๔.๒.๒ เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง ดาเนินการประกอบเลี้ยงให๎เป็นไปตามหลักโภชนาการ และ เกิดประโยชน์ตํอทหารให๎มากที่สุด ๓.๔.๓ หนํวยประกอบเลี้ยงควรจัดให๎มีสถานที่เหลำนี้ คือ ๓.๔.๓.๑ ที่เก็บอาหาร ๓.๔.๓.๒ ที่เก็บเชื้อเพลิง ๓.๔.๓.๓ ที่เก็บเครื่องมือเครื่องใช๎ ๓.๔.๓.๔ ที่เตรียมอาหารและประกอบอาหาร ๓.๔.๓.๕ ที่เลี้ยงอาหาร ๓.๔.๓.๖ ที่ทาความสะอาด ๓.๔.๓.๗ ที่ทิ้งเศษอาหาร ๓.๔.๓.๘ ที่พักเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง ๓.๔.๔ เครื่องมือใช๎ในการปฏิบัติการเลี้ยงดูหรือสูทภัณฑ์ ทหารของหนํวยประกอบเลี้ยงตามอัตราที่ กองทัพบกกาหนด ได๎เบิกรับตามสายการสํงกาลังบารุง ๓.๔.๕ การเสนอความต๎องการปริมาณอาหารและเชื้อเพลิง ๓.๔.๕.๑ หนํวยรับการเลี้ยงดูเสนอความต๎องการเลี้ยงดู ไปยังเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง (ผำน เจ๎าหน๎าที่ตรวจสอบยอดกาลังพลที่รับการเลี้ยงดูของหนํวยประกอบเลี้ยง) ๓.๔.๕.๑.๑ เสนอความต๎องการข๎าวสารและเชื้อเพลิง โดยประมาณการเป็นจานวนทหาร ที่รับการเลี้ยงดู ในรอบ ๑ เดือน ๓.๔.๕.๑.๒ เสนอความต๎องการอาหาร โดยประมาณการเป็นจานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู ในทุกห๎วงวันที่ ๑-๑๐ , วันที่ ๑๑-๒๐, วันที่ ๒๑-๓๐ หรือ ๓๑ ของเดือน
  • 14. ๑๔ ๓.๔.๕.๑.๓ ให๎เสนอความต๎องการอาหารและเชื้อเพลิง ถึงเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง ลํวงหน๎า กํอนถึงวันที่รับการเลี้ยงดูวันแรก อยำงน๎อย ๕ วันทาการ ๓.๔.๕.๒ เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง รวบรวมความต๎องการอาหารและเชื้อเพลิง แล๎วคานวณความ ต๎องการ ปริมาณอาหาร และเชื้อเพลิงจากเกณฑ์ความสิ้นเปลือง/วัน/คน โดยต๎องคานึงคุณคำทางโภชนาการ และถูกหลักอนามัย มีปริมาณเพียงพอตํอการปฏิบัติภารกิจ และความพึงพอใจของทหาร เสนอเจ๎าหน๎าที่ จัดหาดาเนินกรรมวิธีจัดหาตํอไป ดังนี้ ๓.๔.๕.๒.๑ ข๎าวสาร เสนอให๎จัดหาในปริมาณความต๎องการในรอบ ๑ เดือนโดยคานวณ จากเกณฑ์ความสิ้นเปลือง เฉลี่ย/วัน/คน หักด๎วยจานวนข๎าวสารคงเหลือจากเดือนที่แล๎ว ๓.๔.๕.๒.๒ เชื้อเพลิง เสนอให๎จัดหาในปริมาณการใช๎ ในรอบ ๑ เดือน โดยคานวณ จากเกณฑ์ความสิ้นเปลือง เฉลี่ย/วัน/คน ประกอบกับสถิติการใช๎เฉลี่ยตํอเดือน หักด๎วยจานวนเชื้อเพลิง คงเหลือจากเดือนที่แล๎ว ๓.๔.๕.๒.๓ อาหารสด เสนอให๎จัดหา โดยระบุรายการอาหารที่เหมาะสมกับฤดูกาลและ ท๎องถิ่น ในห๎วงนั้นในรอบ ๑๐ วัน หรือ ๑๑ วัน แล๎วแตํกรณี ๓.๔.๖ การจัดหา ๓.๔.๖.๑ เจ๎าหน๎าที่จัดหา ดาเนินการจัดหา ข๎าวสาร เชื้อเพลิง และ อาหารสด ตาม เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง เสนอความต๎องการ ดังนี้ ๓.๔.๖.๒ ข๎าวสาร จัดหาโดยออกใบสั่งซื้อ ตามจานวนที่เสนอความต๎องการภายในวงเงินที่ คานวณได๎จาก จานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู ๓.๔.๖.๓ เชื้อเพลิง จัดหาโดยออกใบสั่งซื้อ ตามจานวนที่เสนอความต๎องการภายในวงเงินที่ คานวณได๎จาก จานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู ๓.๔.๖.๔ อาหาร จัดหาโดยออกใบสั่งซื้อ ตามประเภท ชนิดและจานวนของอาหาร ซึ่ง พิจารณาจากรายการอาหารตามสูตรอาหารทั่วไป ประกอบกับราคาอาหารสดในท๎องถิ่น ณ ห๎วงเวลานั้น ภายในวงเงินที่คานวณได๎จากจานวนทหารที่รับการเลี้ยงดู ๓.๔.๗ การตรวจรับ ๓.๔.๗.๑ ให๎คณะกรรมการตรวจรับการจัดหา ข๎าวสาร เชื้อเพลิงและอาหาร ซึ่งประกอบ ด๎วยนายทหารที่ได๎รับการแตํงตั้งจากผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง เจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยงและผู๎แทนพลทหาร กองประจาการที่รับการเลี้ยงดู ทาการตรวจรับพร๎อมสํงมอบให๎แกํเจ๎าหน๎าที่ประกอบเลี้ยง แล๎วรายงานผล การตรวจรับให๎ผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยงทราบภายในวันทาการถัดไป ๓.๔.๗.๒ ให๎เจ๎าหน๎าที่จัดหา ตั้งเรื่องขออนุมัติเบิกเงินการจัดหา ข๎าวสาร เชื้อเพลิง และ อาหาร ตํอผู๎บังคับหนํวยประกอบเลี้ยง (ผำนเจ๎าหน๎าที่การเงิน) ตํอไปดังนี้.- ๓.๔.๗.๒.๑ ข๎าวสาร และเชื้อเพลิง ตั้งเรื่องขออนุมัติเบิกเงินหลังจากหนํวยรับการเลี้ยง ดู นาสํงเงินประกอบเลี้ยงในแตํละงวด หรือในงวดสุดท๎ายของเดือนแล๎ว ๓.๔.๗.๒.๒ อาหาร ตั้งเรื่องขออนุมัติเบิกเงินหลังจากหนํวยรับการเลี้ยงดูนาสํงเงินคำ ประกอบเลี้ยงในแตํละงวดแล๎ว ๓.๔.๘ การปฏิบัติเรื่องการเงิน ๓.๔.๘.๑ หนํวยทหารที่รับการเลี้ยงดู เบิกเบี้ยเลี้ยงทหารจากหนํวยการเงิน ในแตํละงวด การจำยเบี้ยเลี้ยง ให๎เป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการได๎กาหนดไว๎ ทั้งนี้ ทหารจะต๎องลงนามรับเงินเบี้ยเลี้ยง เต็มจานวน เพื่อให๎เป็นไปตามนัยทกี่รมบัญชีกลางได๎ชี้แจง ตามที่ได๎ระบุไว๎ในระเบียบนี้แล๎วจึงดาเนินการดังน.ี้- ๓.๔.๘.๒ รวบรวมเงินคำประกอบเลี้ยงจากทหารที่รับการเลี้ยงดู ในแตํละงวดการจำยเบี้ย เลี้ยง ในอัตราคำประกอบเลี้ยงที่กองทัพบกกาหนด
  • 15. ๑๕ ๓.๔.๘.๓ นาสํงเงินคำประกอบเลี้ยงที่รวบรวมได๎ ให๎เจ๎าหน๎าที่การเงิน (ผำนเจ๎าหน๎าที่ ตรวจสอบยอดกาลังพลที่รับการเลี้ยงดู ของหนํวยประกอบเลี้ยง) โดยแยกเป็น ๓.๕. การเลี้ยงดูทหารเจ็บปุวย ๓.๕..๑ ทหารเจ็บปุวยซึ่งสามารถรับการเลี้ยงดูจากหนํวยประกอบเลี้ยงได๎ ให๎หนํวยประกอบเลี้ยง ดาเนินการประกอบเลี้ยงตามคาแนะนาของแพทย์ ๓.๕..๒ ทหารเจ็บปุวยที่เข๎ารับการรักษาพยาบาลในหนํวยพยาบาลทหาร ให๎หนํวยพยาบาลทหาร ดาเนินการในการเลี้ยงดูได๎ตามความเหมาะสม โดยไมํต๎องปฏิบัติตามระเบียบนี้ ๓.๖ การเลี้ยงดูทหารที่นับถือศาสนาอิสลาม ๓.๖.๑ ถ๎าหนํวยประกอบเลี้ยงใดมีทหารที่นับถือศาสนาอิสลามจานวนน๎อยหนํวยนั้นอาจพิจารณา จำยเบี้ยเลี้ยงบุคคลให๎กับทหารเหลำนั้น โดยไมํต๎องประกอบเลี้ยงก็ได๎ ๓.๖.๒ ถ๎าหนํวยประกอบเลี้ยงใดมีทหารที่นับถือศาสนาอิสลามจานวนเพียงพอที่จะทาการประกอบ เลี้ยงอาหารอิสลามได๎ ให๎หนํวยนั้นประกอบเลี้ยงอาหารอิสลามแกํทหารเหลำนั้น โดยกาหนดรายการอาหารและ ยอดจานวนทหารที่นับถือศาสนาอิสลามไว๎ในแบบ ง. ๓.๗ การเลี้ยงดูทหารต๎องโทษ ให๎ปฏิบัติตามระเบียบนี้โดยอนุโลม ๓.๘ การเลี้ยงดูนักเรียนทหารที่ได๎รับเบี้ยเลี้ยงประจาสูงกวำพลทหาร ไมํต๎องปฏิบัติตามระเบียบนี้ และให๎ผู๎บัญชาการโรงเรียนกาหนดระเบียบได๎เองตามความเหมาะสม ทั้งนี้นักเรียนทหารจะต๎องลงนามรับเงิน เบี้ยเลี้ยงเต็มจานวนเสียกํอน เพื่อให๎เป็นไปตามนัยที่กรมบัญชีกลางได๎ชี้แจง ตามที่ได๎ระบุไว๎ในข๎อ ๕ ของ ระเบียบนี้ สาหรับการกาหนดระเบียบต๎องคานึงถึงการมีสํวนรํวมของผู๎ที่เป็นเจ๎าของเบี้ยเลี้ยงเป็นสาคัญ การเลี้ยงดูโดยใช๎เงินจากเบี้ยเลี้ยงที่มิใชํเบี้ยเลี้ยงประจา ตามข๎อบังคับกระทรวงกลาโหมวำด๎วยเบี้ย เลี้ยงทหารฯ ที่มีผลบังคับใช๎อยูํนั้น ให๎ผู๎บังคับหนํวยขึ้นตรงตํอกองทัพบกกาหนดระเบียบได๎เองตามความ เหมาะสม หลักฐานอ๎างอิง ระเบียบกองทัพบกวำด๎วยการเลี้ยงดูทหาร พ.ศ. ๒๕๔๙ (ประกาศใช๎ วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙)
  • 16. ๑๖ การส่งกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ตอนที่ ๒ ระเบียบปฏิบัติในสนาม ๓.๘ ความมุํงหมาย ระเบียบปฏิบัติในการสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ในสนาม มุํงหมายจะให๎ทรายถึงระบบการสํงกาลังสงิ่อุปกรณ์ ประเภท ๑ ในสนามโดยเฉพาะ ซึ่งแตกตำงจากระเบียบปฏิบัติในยามปกติ ๓.๙ คาจากัดความที่ควรทราบ ๓.๙.๑ สิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ หมายถึง เสบียงสนามทุกชนิดที่ใช๎และบริโภค (เว๎นเสบียงสัตว์) เชํน ข๎าว, ผัก,เนื้อสัตว์,เครื่องปรุงและผลไม๎ เป็นต๎น แบํงออกได๎เป็น ๕ ประเภท คือ เสบียงประเภท ก., ประเภท ข., ประเภท ค., ประเภท ง., และเสบียงพิเศษ สาหรับเสบียงประเภท ก,ข,ค,ง และเสบียงพิเศษ มีความหมายเชํน เดียวกันใน ระเบียบ ทบ.วำด๎วยการสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ (ในสนาม) พ.ศ.๒๕๓๕โดยมีวิธีการเลี้ยงดู ดังนี้.- ๓.๙.๑.๑ เสบียงประเภท ก. ถือวำเป็นเสบียงหลักสาหรับใช๎ในสถานการณ์ขั้นการยุทธ์ที่ไมํมีการ เคลื่อน ย๎ายและโอกาสอานวยให๎สามารถทาการหุงต๎มได๎ ๓.๙.๑.๒ เสบียงประเภท ข. ถือวำเป็นเสบียงหลักสาหรับการใช๎ในการรบเสบียงประเภทนี้มีความ มุํงหมายเพื่อใช๎แทนเสบียง ก ในเมื่อไมํมีสิ่งอานวยความสะดวกในการเก็บเย็น ๓.๙.๑.๓ เสบียงประเภท ค. ใช๎เมื่อไมํสามารถจัดครัวเลี้ยงรวมได๎ ๓.๙.๑.๔ เสบียงประเภท ง. จัดขึ้นใช๎เป็นอาหารสาหรับผู๎ปุวย ๓.๙.๒ ตาบลจำยสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ หมายถึง ตาบลที่รับและจำยสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ เพื่อสนับสนุน หนํวยประกอบเลี้ยงในพื้นที่รับผิดชอบของหนํวยระดับกองพล ๓.๙.๓ ตาบลสํงกาลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ หมายถึง สถานที่ตั้งทางการสํงกาลังและปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การจัดหา, เก็บรักษาและแจกจำยสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ เพื่อสนับสนุนหนํวยตำง ๆ ในพื้นที่ความรับผิดชอบ ของหนํวยระดับกองทัพภาคขึ้นไป ๓.๙.๔ วันสํงกาลัง หมายถึง จานวนสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๑ ซึ่งประมาณวำจะต๎องใช๎สิ้นเปลืองใน ๑ วัน โดยอาศัยสถานการณ์การปฏิบัติและกาลังพลเป็นมูลฐาน ๓.๙.๕ วงรอบเสบียง หมายถึง ห๎วงเวลาซึ่งบริโภคหรืออาหาร ๓ มื้อหมดปกติใช๎เริ่มต๎นจากมื้อเย็น ๓.๙.๖ ยำนเสบียง หมายถึง ห๎วงระยะเวลานับตั้งแตํหนํวยประกอบเลี้ยงเสนอใบเบิกเสบียงไปยังหนํวย สนับสนุน จนถึงวันที่ได๎รับเสบียงมาใช๎และบริโภค ๓.๑๐ ในระดับกองทัพบกสนาม (เขตหลัง) ๓.๑๐.๑ การจัดหนํวยงาน ๓.๑๐.๑.๑ กองบัญชาการสํงกาลังบารุงของกองทัพบก ซึ่งเป็นหนํวยรองหลักของกองทัพบก สนาม กองทัพบกจะจัดตั้ง บช.กบ.ทบ.ขึ้น ทาหน๎าที่สนับสนุนทางการสํงกาลังบารุงให๎แกํหนํวยตำงๆของ กองทัพบกทั้งสิ้นในยุทธบริเวณ และทาหน๎าที่ปูองกันพื้นที่สํวนหลังรวมทั้งปกครองดินแดนในเขตหลังของยุทธ บริเวณ ซึ่งจะรับผิดชอบในการสนับสนุนทางการสํงกาลังบารุงให๎แกํหนํวยตำงๆของ ทบ.ที่ขึ้นตรงตํอ ทบ.สนาม ๓.๑๐.๑.๒ คลังสิ่งอุปกรณ์ประเภทที่ ๑ กก.พธ.ทบ.จะจัดตั้ง คลัง สป.๑ นี้ขึ้นโดยมีกองร๎อย พลาธิการคลังเสบียงเป็นหนํวยปฏิบัติ คลัง สป.๑ นี้ขึ้นตรงตํอ บช.กบ.ทบ.ในพื้นที่เขตหลังของยุทธบริเวณ ๓.๑๐.๑.๓ มทบ. และ จทบ. ในเขตหลัง คงทาหน๎าที่เป็นตาบลสํงกาลัง สป.๑ ภายใต๎การ กากับดูแล ของ บช.กบ.ทบ. สนับสนุนโดยตรงให๎แกํหนํวยทหารที่ตั้งอยูํในพื้นที่ของตน
  • 17. ๑๗ ๓.๑๐.๒ กาหนดการระดับสิ่งอุปกรณ์ ๓.๑๐.๒.๑ คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.สะสม สป.๑ ตามระดับสิ่งอุปกรณ์ที่ ทบ.กาหนดให๎ สะสมในยุทธบริเวณ ๔๕ วันสํงกาลัง และ สะสมไว๎ในเขตหน๎า ๘ วันสํงกาลัง ๓.๑๐.๒.๒ มทบ.และ จทบ.ที่อยูํในสายการสํงกาลัง (ในเขตหลัง) สะสม สป.๑ ตามระดับสิ่ง อุปกรณ์ที่หนํวยเหนือกาหนด ๓.๑๐.๒.๓ สป.๑ สารองของ ทบ.สะสมไว๎ที่ กก.พธ.ทบ. (เขตภายใน) ระบบการสํงกาลังเริ่ม จากเขตภายใน สิ่งอุปกรณ์และบริการไหลจากแหลํงผลิตอุตสาหกรรมในประเทศหรือจัดหาจากภายนอก ประเทศ ๓.๑๐.๓ การจัดหา ๓.๑๐.๓.๑ ตามปกติคลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.รับเสบียงจาก กก.พธ.ทบ.การจัดหา สป.๑ ทุกรายการของยุทธบริเวณให๎ถือเบิกจากเขตภายในเป็นหลัก ๓.๑๐.๓.๒ บช.กบ.ทบ.มีอานาจจัดซื้อ สป.๑ ในท๎องถิ่นบางรายการได๎ตามความจาเป็น กรณี สป.๑ บางรายการเป็นเสบียงเสียงำยไมํอาจสํงจากเขตภายในได๎หรือราคาในท๎องถิ่นถูกกวำ ทบ.อาจมอบ อานาจให๎ยุทธบริเวณจัดซื้อได๎ ๓.๑๐.๓.๓ ในกรณีที่ต๎องเกณฑ์ สป.๑ ในท๎องถิ่นเพื่อใช๎ในราชการ ต๎องแจ๎งให๎ มทบ.หรือ จทบ.ซึ่งเป็นเจ๎าหน๎าที่ท๎องถิ่นดาเนินการให๎ ๓.๑๐.๔ การเก็บรักษา คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.และตาบลสํงกาลัง สป.๑ ณ ที่ตั้ง มทบ.และ จทบ.มี หน๎าที่เก็บรักษา สป.๑ ตามระดับที่กาหนด ๓.๑๐.๕ การแจกจำย ๓.๑๐.๕.๑ คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ. รับ สป.๑ จาก กก.พธ.ทบ.และจัดซื้อในท๎องถิ่น เพื่อ แจกจำยให๎กับตาบลสํงกาลัง ณ มทบ.และ จทบ.ตำง ๆ ในเขตหลังและให๎การสนับสนุนกับคลัง หรือ ตส.ของ กองทัพภาคในเขตหน๎าอีกด๎วย ๓.๑๐.๕.๒ หนํวยใช๎ในท๎องถิ่น เบิกรับ สป.๑ จาก ตส.สป.๑ ณ ที่ตั้ง มทบ.และ จทบ.ในพื้นที่ รับผิดชอบ หรือเบิกรับโดยตรงจาก คลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.แล๎วแตํกรณี ๓.๑๐.๕.๓ วิธีการแจกจำยมี ๒ วิธี คือ แจกจำยถึงหนํวยและแจกจำย ณ ตาบลสํงกาลัง ตามปกติใช๎การแจกจำยถึงหนํวยเป็นหลัก ๓.๑๑ ระดับกองทัพภาค ๓.๑๑.๑ การจัดหนํวยงาน หนํวยงานตำง ๆ ที่มีสํวนรับผิดชอบในการสํงกาลัง สป.๑ ในระดับกองทัพภาค มีดังตํอไปนี้.- ๓.๑๑.๑.๑ พลาธิการกองทัพภาค เป็นหัวหน๎าเหลำพลาธิการในกองทัพภาค ทาหน๎าที่เป็น นายทหารฝุายกิจการพิเศษของแมํทัพกองทัพภาค เป็นผู๎ให๎ข๎อเสนอแนะ ให๎ขำวสารและชํวยเหลือแมํทัพภาคใน การกาหนดนโยบายและวางแผนเกี่ยวกับการสํงกาลัง สป.๑ ในกองทัพภาค ๓.๑๑.๑.๒ กองบัญชาการชํวยรบของกองทัพบก เป็นหนํวยรับผิดชอบในการสนับสนุนการสํง กาลังบารุงทั้งปวงในกองทัพภาค ควบคุมบังคับบัญชาหนํวยงานสายยุทธบริการตำง ๆ ทั้งหมดในพื้นที่ชํวยรบ กองทัพภาคโดยมี มทบ. และ จทบ. ทาหน๎าทีเป็นตาบลสํงกาลังของกองทัพภาคเพื่อเสริมขีดความสามรถใน การปฎิบัติงานของ บชร. ให๎มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ๓.๑๑.๑.๓ ศูนย์ควบคุมการสํงกาลังบารุงของ บชร.ทภ. เป็นศูนย์บริหารการสํงกาลังสายงาน ฝุายยุทธบริการในกองทัพภาค มีเจ๎าหน๎าที่พลาธิการเป็นผู๎ทาหน๎าที่กาหนดความต๎องการ, ควบคุมการจัดหา และเบิก, อานวยการเก็บรักษาและแจกจำย สป.๑ สนับสนุนแกํหนํวยทั้งปวงในกองทัพภาค ๓.๑๑.๑.๔ กองพันสํงกาลังและบริการ ตามอัตราของ บชร.ทภ.รับผิดชอบในการจัดตั้งตาบลสํง กาลัง สป.๑ ของกองทัพภาคเพื่อทาการรับ, เก็บรักษาและการแจกจำย สป.๑ สนับสนุนโดยตรงให๎แกํหนํวยขึ้น
  • 18. ๑๘ ตรงของกองทัพภาคและสนับสนุนทั่วไปผำน มทบ.และจทบ.ให๎แกํกองทหารพลาธิการกองพล หรือกองร๎อยสํง กาลังและบริการ กรมสนับสนุนอีกด๎วย ๓.๑๑.๑.๕ คลัง สป.๑ มทบ.และ จทบ. เป็นคลังเกียกกายของฝุายพลาธิการ มทบ.และ จทบ. ในพื้นที่ชํวยรบของ ทภ.และเป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.ทาหน๎าที่จัดหา เก็บรักษาและแจกจำย สป.๑ สนับสนุนแกํ หนํวยทหารในพื้นที่รับผิดชอบของหนํวยระดับกองทัพภาค ภายใต๎การควบคุมและกากับดูแลของ บชร.ทภ. (เว๎น มทบ.และ จทบ.ที่ตั้งอยูํในที่ตั้งของ บชร.ทภ.) ๓.๑๑.๒ การกาหนดความต๎องการ สป.๑ บชร.ทภ. รวบรวมความต๎องการโดยศูนย์ควบคุมการสํงกาลัง บารุงของ บชร.ทภ.รับผิดชอบในการกาหนดความต๎องการทั้งจานวนและชนิดของ สป.๑ ที่ใช๎ในพื้นที่ของ กองทัพภาค โดยอาศัยข๎อมูลและคาสั่งชํวยรบกองทัพภาคตลอดจนระดับสิ่งอุปกรณ์ที่ ทบ.กาหนด เป็น แนวทางในการพิจารณา ๓.๑๑.๓ การจัดหา ๓.๑๑.๓.๑ บชร.ทภ.เบิกรับ สป.๑ จากคลัง สป.๑ ของ บช.กบ.ทบ.ในเขตหลังและอาจมอบ อานาจให๎ บชร.จัดหา สป.๑ เองเฉพาะรายการที่ได๎รับอนุมัติจัดหาในท๎องถิ่นเนื่องจากเป็นเสบียงเสียงำยและ ขาดสิ่งอานวยความสะดวกในการขนสํง เพื่อสะสมไว๎ตามสถานเก็บรักษาตำง ๆ ในพื้นที่ชํวยรบทภ.เชํนที่คลัง และตาบลสํงกาลัง สป.๑ ตำง ๆ ๓.๑๑.๓.๒ มทบ.และ จทบ. ซึ่งตั้งอยูํนอกที่ตั้ง บชร.และเป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.เบิกรับ สป.๑ จากคลัง สป.๑ ของ ทภ.และจัดซื้อ สป.๑ บางรายการในท๎องถิ่นของตน ในฐานะเป็นตัวแทนเพิ่มขีด ความสามารถการสํงกาลังของ บชร.ทภ.แล๎วยังเป็นที่เก็บรักษาไว๎ ณ สถานเก็บรักษาของ มทบ.และ จทบ.นั้น ๆ ๓.๑๑.๔ การเก็บรักษาและสะสม ๓.๑๑.๔.๑ กองพันสํงกาลังและบริการ จัดตั้งคลังหรือตาบลสํงกาลัง สป.๑ ของกองทัพภาคเพื่อ ทาการเก็บรักษา สป.๑ ณ ที่ตั้งของ บชร. ในสํวนพื้นที่ชํวยรบกองทัพภาค ๓.๑๑.๔.๒ มทบ.และ จทบ. ซึ่งทาหน๎าที่เป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.(ในเขตหน๎า)คงใช๎สถานเก็บ รักษาที่มีอยูํเดิม เป็นที่เก็บรักษา ภายใต๎การควบคุมของ บชร.ทภ. ๓.๑๑.๔.๓ บชร.ทภ.รับผิดชอบการสํงกาลังบารุงเป็นสํวนรวมในพื้นที่กองทัพภาค ในการที่จะ ให๎คลัง สป.๑ และ ตส.สป.๑ ของ ทภ. สะสมไว๎ตามชนิดเสบียงและจานวนที่กาหนดการกาหนดระดับ สป.๑ อยูํในอานาจของแมํทัพภาค ๓.๑๑.๕ การแจกจำย ๓.๑๑.๕.๑ หนํวยใช๎ซึ่งตั้งอยูํในพื้นที่ของ มทบ.หรือ จทบ. ซึ่งเป็น ตส. สป.๑ ของ ทภ.คงเบิกรับ สป.๑ จาก มทบ. หรือ จทบ. ซึ่งเป็นหนํวยสนับสนุนให๎นั้น ๓.๑๑.๕.๒ หนํวยใช๎ซึ่งตั้งอยูํในพื้นที่เดียวกับที่ตั้งของ บชร.ทภ.คงเบิกรับสป.๑ สนับสนุนโดยตรง จาก คลังหรือ ตส.สป.๑ ของ ทภ.ที่จัดตั้งและดาเนินงานการสํงกาลัง สป.๑ โดยกองพันสํงกาลังและบริการ บชร. ๓.๑๑.๕.๓ มทบ.และ จทบ.ซึ่งทาหน๎าที่เป็น ตส.สป.๑ ของ ทภ.รายงานสถานภาพ สป.๑ บาง รายการในสถานเก็บรักษาของตน ให๎ ศูนย์ควบคุมการสํงกาลังบารุง บชร.ทราบตามระยะเวลาที่กาหนด ๓.๑๑.๕.๔ บชร.ทภ.จะจัดสํง สป.๑ บางรายการไปเพิ่มเติมเพื่อรักษาระดับ สป. ณ สถานที่ตั้งสํง กาลังให๎แกํ มทบ.และ จทบ.ให๎เต็มตามระดับ โดยพิจารณาจากรายงานสถานภาพที่ได๎รับ ๓.๑๑.๕.๕ กองทหารพลาธิการกองพลหรือกองร๎อยสํงกาลังและบริการ กรมสนับสนุนกองพล ได๎รับการสนับสนุนสป.๑จากคลัง หรือ ตส.สป.๑ ทภ. เพื่อไปแจกจำยให๎แกํหนํวยใช๎ขึ้นตรงของกองพล ๓.๑๑.๕.๖ การแจกจำยในระดับนี้มี ๒ วิธี ตามปกติใช๎วิธีการแจกจำย ณ ตาบลสํงกาลัง หรือจำย ถึงหนํวยอาจใช๎ทั้ง ๒ แบบผสมกัน แล๎วแตํสถานการณ์จะอานวยให๎ ๓.๑๑.๕.๗ การทาบัญชีแบํงจำยเพื่อสะดวกในการแจกจำย ถ๎าหนํวยรับการสนับสนุนมีหลาย หนํวย ให๎ทาบัญชีแบํงจำยตามแบบพิมพ์ ทบ. ๔๕๖-๕๖๕