SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 70
Baixar para ler offline
www.TrainingServ.com 1
www.TrainingServ.com 2
วิทยากรมืออาชีพ
โดย ดร.บัญชา วิชยานุวัติ
คานา
ผมเคยเรียนมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศและเช่นเดียวกันเคยเข้าอบรมกับหน่วยงานต่างๆที่ทางานอยู่เคยเข้า
อบรมกับวิทยากรระดับโลกและเคยเข้าอบรมหลักสูตรยาวถึงหนึ่งสัปดาห์กับองค์การระหว่างประเทศ ผมพบว่าวิทยากรจานวน
มากเป็นวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์ในสิ่งที่นาเสนอดีแต่น่าเสียดายที่ขาดเทคนิคการนาเสนอที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียน
ไม่กระตือรือร้นที่จะฟังไม่ว่าวิทยากรจะมีความรู้ดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าผู้ฟังไม่ฟังซะแล้วความรู้นั้นจึงไม่มีประโยชน์อันใด
เช่นเดียวกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจาพวกสอนหนังสือโดยไม่รู้หลักการสอนที่ดีจึงล้มเหลวในการถ่ายทอดความรู้ หนังสือเล่ม
นี้รวบรวมความรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนในฐานะที่ทางานทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชนมากว่า25ปี เคยเป็น
ผู้จัดการทั่วไปด้านฝึกอบรมของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยเคยเป็นทั้งผู้เข้ารับการอบรมผู้จัดอบรมและ วิทยากร
ได้รวบรวมความรู้ และประสบการณ์เพื่อแบ่งปันให้ผู้ที่ทาหน้าที่วิทยากรอาจารย์ผู้บริหารหัวหน้างานที่จาเป็นต้องทาหน้าที่
สอนหรือ นาเสนองานต่างๆให้ได้เรียนรู้ พัฒนาประสิทธิภาพการสอนให้ดียิ่งขึ้น
www.TrainingServ.com 3
น่าเสียดายที่ผู้บริหารประเทศท่านหนึ่งได้นาเสนอโครงการของรัฐบาลที่ทาเนียบรัฐบาลโดยเชิญชาวนาผู้ใช้แรงงาน
แม่บ้านข้าราชการนักธุรกิจมาฟังแนวทางที่รัฐบาลจะใช้ต่อไปในการบริหารประเทศนักการเมืองท่านนั้นเป็นนักการเมืองที่มี
ชื่อเสียงว่าพูดได้ดีพูดได้น่าฟังแต่เมื่อลองนาเสนอต่อหน้าชาวบ้านระดับรากหญ้าที่ไม่ใช่นักวิจารณ์แล้วผลปรากฏว่าล้มเหลว
เพราะนักการเมืองท่านนั้นไม่ได้พูดถ้อยคาที่ง่ายสาหรับชาวบ้านที่จะเข้าใจเนื้อหาที่ท่านนาเสนอก็มีจานวนมากมีหลาย
ประเด็นเกินไปจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นประเด็นหลักและประเด็นรองและจบการนาเสนออย่างเป็นทางการซึ่งไม่ได้สร้างความ
ประทับใจกับผู้ฟังเลยในวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์รายงานผลการนาเสนอโครงการของรัฐบาลอย่างธรรมดาไม่มีจุดเด่นที่
หนังสือพิมพ์จะนาเสนอให้น่าสนใจได้ การลงทุนนาเสนอในวันนั้นจึงล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ตามการสอนหรือการนาเสนอเป็นทักษะที่ทุกท่านสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ เช่นเดียวกับทักษะในการขับ
รถหรือทักษะในการวาดรูปคนส่วนใหญ่ไม่สามารถนาเสนอได้ดี(ยกเว้นคนจานวนน้อยเท่านั้นที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ใน
การพูด)แต่การเรียนรู้ และฝึกฝนสามารถช่วยให้เขาเป็นผู้ที่สอนได้เก่งนาเสนอได้ประทับใจซึ่งหนังสือเล่มนี้มั่นใจว่าจะช่วยให้
ท่านประสบความสาเร็จได้อย่างแท้จริง
หัวใจของวิทยากร
อะไรคือหัวใจของการเป็นวิทยากรที่เก่งก่อนอื่นต้องกลับมาย้อนดูว่าเป้ าหมายของวิทยากรคืออะไรวิทยากรมีหน้าที่
ในการสอนเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้เข้าอบรมในด้านใดด้านหนึ่งไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความเข้าใจหรือทัศนคติ ถ้าการสอนของวิทยากร
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้เลยการเป็นวิทยากรถือว่าไม่ประสบความสาเร็จดังนั้นการเป็นวิทยากรต้องสามารถ
เปลี่ยนแปลงบุคคลได้
เมื่อภารกิจของวิทยากรคือการเปลี่ยนแปลงดังนั้นความสามารถหลักของวิทยากรคือการทาให้เชื่อหรือเทคนิคการ
จูงใจนั่นเอง วิทยากรจะต้องใช้ทักษะนี้มากเป็นพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้ฟังเชื่อและเปลี่ยนแปลงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ใช่แค่ทาหน้าที่
เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เท่านั้นเพราะถ้าวิทยากรทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ เมื่อผู้เข้ารับการอบรมรับรู้แต่ไม่ลงมือปฏิบัติตามที่ได้
เรียนรู้มาการฝึกอบรมก็จะไม่มีประโยชน์อันใดเช่นวิทยากรสอนให้มีความรู้ในการป้ องกันอัคคีภัยในโรงงานเมื่อผู้เข้ารับการ
อบรมรับรู้แล้วแต่ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมในการปฏิบัติงานยังคงทางานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยเหมือนเดิม
www.TrainingServ.com 4
แม้เขาจะได้เรียนรู้แล้วก็ตามก็จะถือว่าการฝึกอบรมนี้ไม่มีประสิทธิภาพเพราะทาให้แค่ผู้เข้าอบรมรู้ แต่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม
วิทยากรจึงควรต้องคานึงถึงความสาคัญข้อนี้ให้มากเพราะจะมีผลมากต่อการจัดทาแผนการสอนและการเลือกวิธีการสอน
เมื่อการอบรมคือการเปลี่ยนพฤติกรรมด้านใดด้านหนึ่งของผู้เข้าอบรมในด้านความรู้ หรือทักษะหรือทัศนคติ การ
พยายามเปลี่ยนแปลงความรู้และทักษะดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดแต่เขาจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้เข้าอบรมได้
หรือ? คาตอบคือ มีการอบรมหลายประเภทที่สามารถเปลี่ยนทัศนคติคนได้แม้จะยากก็ตามเช่น การอบรมเพื่อให้เลิกสูบบุหรี่
ภายใน7 วันหรือการอบรมเพื่อให้รักชาติเช่นเมื่อ 20 ปีที่แล้วเคยมีการอบรมลูกเสือชาวบ้านอย่างการทั่วประเทศไทยเพื่อเป็น
การสร้างความชาตินิยมในหมู่ประชาไทยเพื่อต่อต้านการแพร่ของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุคนั้นวิธีการอบรมจะใช้เวลา5วัน4 คืน
โดยผู้เข้าอบรมจะถูกแบ่งให้อยู่ในแต่ละหมู่สีๆละ10-12 คนโดยแต่ละหมู่สีจะมีภารกิจให้ทาในแต่ละวันจานวนมากจนได้นอน
แค่วันละ3 – 4 ช.ม.เท่านั้น ในตอนเช้าจะเป็นกิจกรรมเข้าอบรมฟังวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับชาติและประชาชนไทยและภัยจาก
ลัทธิตรงข้ามในขณะบรรยายผู้เข้าอบรมจะถูกให้ร้องเพลงรักชาติรักหมู่คณะเป็นระยะๆ กรณีที่ผู้เข้าอบรมถูกให้ทากิจกรรม
และได้นอนในแต่ละคืนน้อยทาให้เมื่อต้องมานั่งฟังวิทยากรในห้องอบรมทาให้ง่ายในการทาให้ผู้เข้าอบรมเชื่อได้ดีกว่าใน
ขณะที่ผู้เข้าอบรมมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพราะในขณะที่มนุษย์มีร่างกายอ่อนแอการใช้ความคิดของตัวเองเพื่อคิดวิเคราะห์
สิ่งที่ได้ฟังว่าจะควรเชื่อหรือไม่จะมีน้อยกว่าคนที่ร่างกายแข็งแรงและเมื่อได้ฟังสิ่งเดิมซ้าๆบ่อยๆย่อมทาให้เชื่อได้ง่ายกว่า
นอกจากนั้นการที่ผู้เข้าอบรมต้องสังกัดกลุ่มสีจะถูกอิทธิพลของกลุ่มทาให้ต้องทาตามโดยไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งนี้เป็นตัวอย่าง
ของการใช้การฝึกอบรมเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้เข้าอบรม
www.TrainingServ.com 5
อย่างไรก็ตามการฝึกอบรมที่ดีเป็นกระบวนการ(Process)ถ้าต้องการให้การฝึกอบรมมีประสิทธิภาพจาเป็นต้อง
ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การฝึกอบรมเพียงครั้งเดียวอาจไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้ ถ้าต้องมีกระบวนการต่อเนื่องเช่น
ฝึกอบรมเรื่องการป้ องกันอัคคีภัยเมื่อผ่านการอบรมแล้วต้องมีกระบวนการต่อเนื่องด้วยการให้ลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ได้เรียนมา
และให้มีการติดตามผลการปฏิบัติเป็นระยะโดยหัวหน้างานเพื่อให้คาแนะนาและแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นหรือส่งผู้
เข้าอบรมซ้าเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรสามารถปฏิบัติงานได้จริง
การฝึกอบรมที่ดีจึงเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคนหลายกลุ่มตั้งแต่ผู้บริหารที่จะให้นโยบายฝึกอบรมมาฝ่ าย
ฝึกอบรมที่จะทาหน้าที่บริหารการฝึกอบรมหัวหน้างานทาหน้าที่คัดเลือกบุคลากรเข้าอบรมและติดตามประเมินผลหลังฝึกอบรม
คนทุกกลุ่มเหล่านี้มีความสาคัญต่อความสาเร็จของการอบรมทั้งสิ้นซึ่งปัญหาที่มักจะเกิดก็ก็คือหัวหน้างานมักจะส่งคนเข้า
อบรมโดยใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมเช่นส่งเข้าอบรมทุกคนโดยไม่ได้พิจารณาว่าแต่ละคนมีความรู้ ความสามารถแตกต่างกัน
อย่างไร ในข้อเท็จจริงในองค์กรจะมีบุคลากรมีความรู้ ความสามารถแตกต่างกันการพิจารณาส่งคนเข้าอบรมจะต้องตรวจสอบ
ความรู้ทักษะของบุคลากรแล้วส่งเข้าอบรมสาหรับผู้ที่พิจารณาว่าขาดความรู้ทักษะนั้นเท่านั้น
การวิเคราะห์ผู้ฟัง
เคยสงสัยไหมว่าทาไมเวลาวิทยากรบางคนบรรยายท่านเมื่อได้ยินชื่อว่าวิทยากรท่านนี้จะมีบรรยายก็เกิดความรู้สึกไม่
อยากฟังแล้วแม้จะมาบรรยายให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วยซ้าแต่สาหรับวิทยากรบางท่านท่านยอมเสียเงินเพื่อเข้าไปฟังบรรยาย
แม้จะต้องยอมเดินทางไกลแม้จะต้องยอมเสียงานก็ตามคาตอบคือวิทยากรบางท่านสามารถนาเสนอได้ตรงกับความต้องการ
ของท่านได้ดีกว่าวิทยากรอีกท่านหนึ่งแต่ไม่ใช่วิทยากรทุกคนสามารถนาเสนอสร้างความพึงพอใจได้กับคนทุกคนปัญหาสาคัญ
เบื้องต้นของวิทยากรคือต้องรู้ว่าผู้ฟังเป็นใครเพื่อจะนาเสนอเนื้อหาและรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้ฟัง
ก่อนนาเสนอกับผู้ฟังจะต้องเรียนรู้ให้ได้ว่าผู้ฟังเป็นใครการคาดเดานาปัญหามาให้วิทยากรเสมอเพราะในหลายกรณี
ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งวิธีการหาข้อมูลว่าผู้ฟังเป็นใครก็อาศัยการสอบถามข้อมูลผู้จัดอบรมข้อมูลทางเว็บไซต์จากวิทยากรที่
เคยไปสอนมาแล้วหรือสอบถามกับผู้เข้าอบรมโดยตรงซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฟังที่จาเป็นต้องคานึงถึงมีดังนี้
www.TrainingServ.com 6
กลุ่มอายุ
ต้องหาข้อมูลด้วยว่าผู้ฟังเป็นคนกลุ่มอายุเท่าใดเพราะคนแต่ละรุ่นก็มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันเข่นคนรุ่นใหม่
มีแนวโน้มชอบการสื่อสารที่สั้น กระชับ ผ่านทางอีเมล์, ข้อความสั้น, โซเชียลเน็กเวิร์ด ไม่ชอบการพูดหรือการบรรยายที่ยาว มี
นักแสดงในดวงใจมีดนตรีที่ชอบแตกต่างกันจากคนรุ่นก่อนฉะนั้นผู้บรรยายจาเป็นต้องปรับตัวให้ผู้ฟังแต่ละกลุ่มสนใจโดยทั่วไป
เราสามารถแบ่งกลุ่มผู้ฟังตามกลุ่มอายุได้ดังนี้
กลุ่มผู้ใหญ่ เกิดก่อน 1945
เบบี้บูม เกิดระหว่าง 1945 –1964
เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ เกิดระหว่าง 1965 –1980
นิวมิลลิเนี่ยม เกิดหลัง 1980
เจนเนอเรชั่นแซด เกิดหลัง 2000
เมื่อเราต้องสอนผู้เรียนที่เป็นกลุ่มนิวมิลลิเนี่ยม อายุ 15 -20 ปี จึงไม่แปลกใจที่อาจารย์ที่สอนที่โรงเรียนกวดวิชา
ทั้งหลายมักจะแต่งตัวทันสมัยเหมือนนักร้องเกาหลี เปิดเพลงสลับการสอนมีจังหวะพูดที่สนุกและเร็ว ใช้ภาษาที่ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่
อาจจะไม่ค่อยชอบ และมีอารมณ์สนุกตลอดเวลา ซึ่งสามารถสร้างความสนใจกับกลุ่มผู้เรียนได้อย่างดี
กลุ่มเพศ
ผู้ฟังที่เป็นผู้หญิงและผู้ชายมีความคาดหวังแตกต่างกันผู้บรรยายจาเป็นต้องคานึงถึงการใช้คาพูดที่อาจจะไป
กระทบกับเพศใดเพศหนึ่งได้ เช่นการยกตัวอย่างว่าผู้ชายแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงเสมอฉะนั้นจึงเป็นผู้บริหารจานวนมากกว่า
ผู้หญิง เป็นตัวอย่างที่สร้างความไม่พอใจกับผู้หญิง หรือการใช้คาพูดต้องระวังสรรพนาม เช่น ใจเสาะเหมือนผู้หญิง,
อกสามศอก
www.TrainingServ.com 7
อาชีพของผู้ฟัง
ผู้ฟังแต่ละอาชีพมีความสามารถและความชานาญแตกต่างกันในแต่ละอาชีพ เช่น ผู้ฟังที่เป็นนักบัญชี ต้องการ
อะไรที่เป็น และมีรายละเอียดส่วนนักกฎหมาย และนักโปรแกรมเมอร์ ต้องการอะไรที่เป็นเหตุเป็นผล ที่สามารถอ้างอิงและหา
คาตอบได้ ในขณะที่นักการตลาดชอบความแตกต่างความหลากหลายและความคิดแปลกใหม่ถ้าผู้บรรยายเข้าใจกลุ่มผู้ฟังแต่
ละกลุ่มได้แล้วจะสามารถนาเสนอได้ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น เช่น เมื่อต้องการสอนนักขาย ไม่จาเป็นต้องบรรยายมาก ใช้
กิจกรรมเข้าช่วยจะได้บรรยากาศที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เอากิจกรรมไปใช้เยอะกับนักบัญชี นักบัญชีจะรู้สึกว่าการสอนครั้งนี้
ไม่ได้เนื้อหาตามที่คาดเอาไว้
นอกจากนั้นต้องคานึงถึงภาษที่ใช้เฉพาะในแต่ละอาชีพด้วย ซึ่งมักจะมีการการใช้ภาษาเฉพาะในอาชีพ ที่ควรจะ
เรียนรู้ เช่นการสอนบุคลากรทางการแพทย์จาเป็นต้องเข้าใจศัพท์เทคนิค,หรือการสอนช่าง ก็ควรเรียนรู้ศัพท์เฉพาะด้านทาให้
ผู้ฟังรู้สึกว่าวิทยากรเป็นผู้เชี่ยวชาญและรู้จริงในสิ่งที่จะสอน
www.TrainingServ.com 8
การบริหารสิ่งแวดล้อมในการอบรม
ความสาเร็จของการอบรมนอกจาดจะขึ้นอยู่กับวิทยากรหรือเนื้อหาในการนาเสนอแล้วยังขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมใน
การสอนในวันนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานที่เสียง แสงอุณหภูมิ บรรยากาศฯลฯเพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการสอนทั้งสิ้นลองคิดซิว่า
การสอนของท่านจะเป็นเช่นไรเมื่อต้องไปสอนในห้องประชุมในโรงแรมที่อยู่ติดกับสระว่ายน้าแล้วห้องประชุมนั้นเป็นกระจกรอบ
ด้านท่านจะสามารถดึงความสนใจผู้เข้าอบรมจากสระว่ายน้าได้อย่างไร
เมื่อต้องสอนในบรรยากาศที่อาจจะควบคุมไม่ได้ เช่นในหอประชุมในต่างจังหวัดที่ห้องประชุมเป็นคอนกรีต
ไม่มีผนังห้อง รถวิ่งผ่านไปมาได้ยินเสียงดังเป็นต้นประสิทธิภาพการสอนก็จะลดลงทางเดียวที่จะทาได้คือการแก้ปัญหา
เฉพาะหน้า เช่นกรณีห้องประชุมที่อยู่ติดสระว่ายน้าก็ให้หาม่านมาปิดที่ผนังห้องให้มองไม่เห็นสระว่านย้าหรือในห้อง
ประชุมที่ไม่มีผนัง ก็ให้หาบอร์ดที่ติดประกาศมาวางกั้นสายตาผู้เข้าอบรมเป็นต้น
แสงสว่างมีส่วนสาคัญในการสร้างความน่าสนใจแก่ผู้เข้าอบรมในห้องประชุมบางแห่งมืดเกินไปทาให้ผู้เข้า
อบรมง่วงจึงต้องพยายามเปิดม่านบางส่วนให้ไม่มืดเกินไปหรือเมื่อจาเป็นต้องฉายโปรเจคเตอร์ไม่ควรเปิดแสงสว่าง
ทั้งหมด พยายามเปิดม่านและเปิดไฟในห้องอบรมไว้ ทาให้บรรยากาศไม่อึมครึมเกินไปและผู้เข้าอบรมบางคนจะหลับ
ก่อนที่ผู้บรรยายจะบรรยายเสร็จ
บางสถานที่เมื่อบรรยากาศห้องอบรมร้อนเกินไปเนื่องจากไม่มีแอร์คอนดิชั่นหรือแอร์เสียย่อมทาให้ผู้เข้า
อบรมไม่มีสมาธิในการฟังที่ดี ทางแก้คือเปิดหน้าต่างให้หมดหรือเปลี่ยนไปห้องอื่นๆที่อากาศร้อนน้อยกว่า วิทยากรที่มี
ประสบการณ์อาจใช้วิธีสอนโดยกิจกรรมโดยใช้นอกห้องเรียนเช่นใต้ร่มไม้เป็นต้น
สาหรับเสียงที่ใช้ในห้องอบรมก็มีความสาคัญต่อความสาเร็จของอบรมเช่นเดียวกันถ้าเสียงวิทยากรเบา
และไม่ชัดเจนย่อมทาให้ผู้เข้าอบรมเบื่อและไม่ใส่ใจจึงจาเป็นต้องปรับเครื่องเสียงให้ดังโดยการทดสอบก่อนที่จะเริ่มสอน
โดยอาจจะตั้งเสียยงให้ดังกว่าเปกติจนกระทั่งสามารถได้ยินชัดทั่วทุกส่วนของห้องประชุมการที่ใช้เสียงดังทาให้ผู้เข้า
อบรมถูกกระตุ้นด้วยเสียงที่ดังจึงต้องหันมาให้ความสนใจในการอบรม
www.TrainingServ.com 9
ผมเคยไปบรรยายเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเพื่อการสมัครงานให้นักศึกษาปีสุดท้ายฟังของมหาวิทยาลัย
แห่งหนึ่งในภาคอีสานปรากฏว่ามีนักศึกษาทั้งหญิงและชายประมาณ400 คนและมีจอฉายโปรเจคเตอร์อยู่ด้านขวาด้าน
เดียว(ทราบว่ามีงบประมาณจัดหาได้ด้านเดียวเท่านั้น) บรรยากาศในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีแต่เด็กวัยรุ่นจึงค่อนข้าง
วุ่นวายและผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่สนใจจะฟังดังนั้นบรรยากาศในห้องประชุมจึงไม่พร้อมที่จะสอนผมจึงใช้วิธีลงไปบนพื้นห้อง
จัดเก้าอี้ใหม่ให้เป็นวงกลมและวิทยากรยืนอยู่ตรงกลางบรรยายพร้อมมีกิจกรรมไปด้วยจึงสามารถแก้ไขบรรยากาศแบบ
นี้ได้
รูปแบบการจัดอบรม
การจัดอบรมแบ่งเป็นหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการอบรมตามกลุ่มเป้ าหมายที่เข้าอบรมตามข้อจากัดของ
เวลาสถานที่และวิทยากรซึ้งผู้จัดการฝึกอบรมจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมดังนี้
 แบบชั้นเรียน (Classroom)
เป็นรูปแบบการจัดอบรมที่นิยมกันทั่วไปที่มีการจัดอบรมโดยให้ผู้เข้าอบรมนั่งเป็นแถวหันหน้าไปด้านหน้าห้องอบรม
ในทิศทางเดียวกันและมีวิทยากร1คนหรือมากกว่าพูดหรือบรรยายหน้าห้องสภาพคล้ายห้องเรียนซึ่งรูปแบบการอบรมแบบนี้
เป็นที่นิยมเพราะมีข้อดีคือจัดการอบรมได้ง่ายสามารถรองรับผู้เข้าอบรมได้มากในเวลาเดียวกันและไม่ต้องใช้สถานที่ที่กว้าง
หรือต้องแบ่งเป็นห้องอบรมย่อยๆ เหมือนการอบรมรูปแบบอื่นๆแต่มีข้อเสียคือการอบรมรูปแบบนี้มักจะขาด
www.TrainingServ.com 10
ประสิทธิภาพเนื่องจากมีผู้เข้าอบรมจานวนมากที่วิทยากรไม่สามารถสร้างความคุ้นเคยกับผู้เข้าอบรมได้ทุกคนผู้เข้าเรียนที่นั่ง
ข้างหลังอาจจะลาบากในการมองเห็นวิทยากรที่อยู่ข้างหน้าและไมสามารถกระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมทั้งหมดมีส่วนร่วมในการเรียน
ได้ ซึ้งต่างจากการจัดอบรมแบบอื่นๆแต่ยังเป็นรูปแบบที่พบได้โดยทั่วไป
 แบบกลุ่มย่อย (Group)
เป็นรูปแบบการจัดอบรมที่แบ่งผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มย่อยๆจานวนผู้เข้าอบรมในแต่ละกลุ่มอยู่กลุ่มละ5-7คนเพราะว่า
ผู้เข้าอบรมในแต่ละกลุ่มน้อยกว่า5คนย่อมไม่สามารถหาความหลากหลายได้ แต่ถ้าผู้เข้าอบรมเกิน7คนต่อกลุ่มทาให้อยากใน
การควบคุมอาจจะบางคนไม่สนใจมีส่วนร่วมได้ โดยวัตถุประสงค์ของการแบ่งกลุ่มเพื่อให้แต่ละกลุ่มได้มีโอกาส
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายต่อหัวข้อที่วิทยากรกาหนดอาจเป็นเพียงความเห็นของกลุ่มแต่ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา
หรือวิธีปฏิบัติงานที่ถูกต้องที่ทุกกลุ่มต้องยอมรับเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มได้มีโอกาสนาเสนอเป็นการอบรมที่มุ่งให้ผู้เข้าอบรมมี
ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นจะได้ความคิดใหม่ๆนาไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ โดยวิทยากรต้องทาหน้าที่ควบคุมให้แต่ละ
กลุ่มพูดคุยในเรื่องที่กาหนดและกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม
 แบบสัมมนา (Seminar)
วัตถุประสงค์ของการจัดอบรมแบบสัมมนาก็เพื่อที่จะระดมความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้คาตอบ
หรือแนวทางที่ต้องการโดยการจัดสัมมนาจะกาหนดให้มีวิทยากรนาเสนอประเด็นสาคัญ2-3ท่านโดยมรผู้ดาเนินการการ
สัมมนา 1 คนผู้ทาหน้าที่วิทยากรแต่ละท่านไม่จาเป็นต้องมีมุมมองเหมือนกันเมื่อวิทยากรนาเสนอเสร็จสิ้นทุกคนแล้ว จะเปิด
โอกาสให้ผู้เข้าสัมมนาทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นอย่างอิสระภายในเวลาที่กาหนดและผู้ทาหน้าที่ดาเนินการสัมมนา
จะสรุปประเด็นของแต่ละท่านตลอดจนควบคุมการแสดงความเห็นให้อยู่ในประเด็นซึ้งการสัมมนาที่ดีจะต้องมีการ
สรุปและข้อเสนอแนะเพื่อหาทางออก(Solution)ในประเด็นปัญหาต่างๆเช่นสัมมนาเรื่องFTAกับผลกระทบผู้ผลิตพืชสวนของ
ไทย (ประเด็นที่นาเสนอควรเป็นประเด็นที่ไม่กว้างเกินไปจนการสัมมนาหลากหลายจนหาทางออกไม่ได้)
www.TrainingServ.com 11
 จาลองเหตุการณ์ (Simulation)
เป็นรูปแบบการจัดอบรมอีกประเภทหนึ่งที่มีวิธีการที่น่าสนใจมากทาให้ผู้เข้าอบรมไม่จาเจกับการอบรมแบบชั้นเรียน
เหมือนที่เคยได้เรียนมาเพราะเป็นรูปแบบการอบรมที่จะใช้การจาลองบรรยากาศจริงในชั้นเรียนให้ผู้เข้าอบรมแสดงบทบาท
ต่างๆ ตามที่กาหนดในสถานการณ์ จาลองเช่นการอบรมเรื่องความปลอดภัยจากไฟไหม้ ก็จาลองเหตุการณ์เมื่อเกิดเพลิงไหม้
ใครต้องทาหน้าที่ดับไฟใครทาหน้าที่แจ้งเตือนเพื่อนร่วมงาน,ใครทาหน้าที่แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง,ใครทาหน้าที่นาเพื่อนร่วมงาน
ไปทางหนีไฟฯลฯ นิยมใช้กันในการอบรมประเภทการขายโดยจาลองเหตุการณ์ว่าไปพบลูกค้าโดยผู้เข้าอบรมคนหนึ่งแสดงเป็น
ลูกค้าอีกคนหนึ่งเป็นพนักงานขายเป็นต้นซึ้งรูปแบบการอบรมแบบนี้จะสนุกและไม่น่าเบื่อทุกคนจะกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ แต่
มีข้อจากัดคือรับจานวนผู้เข้าอบรมในแต่ละครั้งได้จากัดอยู่ที่20-30คนเท่านั้นและใช้เวลาการอบรมมากกว่าการบรรยาย
ธรรมดา
 การอบรมรูปแบบสถานี (Station)
เป็นการอบรมที่สร้างบรรยากาศให้ผู้เข้าอบรมไม่เบื่อได้อย่างดีโดยฝ่ายผู้จัดอบรมจะแบ่งเนื้อหาหลักสูตรออกเป็น
ส่วนย่อย4-5 ส่วนแล้วหาวิทยากรเชี่ยวชาญประจาแต่ละหัวข้อใช้ในห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่มีวิทยากรประจาอยู่ในแต่ละจุด
ในห้องประชุม โดยแบ่งผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มย่อยๆ10-20คนหมุนเวียนกันไปเรียนกับวิทยากรแต่ละหัวข้อๆละ20-30นาทีเป็น
รูปแบบการอบรมที่ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่มักจะชอบเพราะสนุกและเรียนรู้กับวิทยากรหลายคนแต่การจัดอบรมแบบนี้เป็นภาระ
สาหรับผู้จัดอบรมมากเนื่องจากต้องหาสถานที่กว้างเป็นพิเศษต้องหาวิทยากรจานวนหลายคนและจัดแบ่งเนื้อหาออกเป็น
ส่วนๆตัวอย่างเช่นการอบรมพนักงานร้านค้าปลีกก็สามารถแบ่งเป็น5สถานีได้แก่ สถานีการแต่งกายที่เหมาะสม สถานีการ
ใช้เครื่องคิดเงินสถานีการทาความสะอาดสถานีการขายสินค้าสถานีการบริการลูกค้า เป็นต้น
 การสาธิต (Demonstration)
เป็นรูปแบบการอบรมที่สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าอบรมได้อย่างดีเพราะการสอนบางเรื่องไม่สามารถบรรยายให้เห็น
ภาพได้ ใช้การสาธิตจากวัสดุจริงจะทาให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ได้ดีกว่า เช่นสาธิตการใช้เครื่องดับเพลิง สาธิตการใช้เครื่องตัดเหล็ก
สาธิตการเปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่องโดยมีวิทยากรจะสาธิตให้ดูแล้วให้ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสได้ปฏิบัติจริงซึ่งในขณะที่ผู้เข้าอบรม
ได้ลงมือปฏิบัติมักจะเกิดความผิดพลาดหรือไม่สมบูรณ์ ก็จะเป็นโอกาสที่ดีที่วิทยากรจะได้ให้คาแนะนาผู้เข้าอบรมใน
www.TrainingServ.com 12
การแก้ปัญหาด้วยการสาธิตมักเป็นการอบรมที่ใช้เวลามากและใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผู้จัดอบรมพึงต้องระมัดระวังเรื่องเวลาที่
มักจะเกินกาหนดเสมอและหาสถานที่จัดอบรมที่เหมาะสม
 การระดมสมอง(Brain Strom)
เป็นรูปแบบการอบรมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหรือหาแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องโดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอ
ความเห็นรูปแบบการจัดอบรมแบบนี้จะต้องมีการกาหนดหัวข้อมาหัวข้อหนึ่งที่ให้ผู้เข้าอบรมร่วมกันเสนอความเห็นเป็นหัวข้อที่
ไม่กว้างจนเกินไปเช่นระดมสมองการแก้ปัญหาที่จอดรถในหน่วยงาน,การระดมสมองเพื่อหาแนวทางปรับปรุงการจัดทา
งบประมาณเป็นต้นมักจะทาในกลุ่มผู้เข้าอบรมกลุ่มเล็กๆจานวนไม่เกิน20คนโดยมีผู้นาการระดมสมองคนหนึ่งทาหน้าที่
กระตุ้นให้ทุกคนแสดงความเห็นและจดทุกความเห็นลงบนกระดานไม่ว่าจะเป็นความเห็นที่ดีหรือไม่ดีก็ตามประการสาคัญก็คือ
พยายามให้ทุกคนมีส่วนในการแสดงความเห็นและพยายามอย่าให้มีใครคนใดคนหนึ่งนาเสนอมากเกินกว่าคนอื่นๆหลังจากได้
ความเห็นครบทุกคนแล้วก็ให้มีการออกเสียงให้คะแนนข้อเสนอที่มีความเป็นไปได้จากมากไปหาน้อยและในขั้นตอนสุดท้ายให้
ทาแผนปฏิบัติงาน(Action Plan)ของข้อเสนอที่ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะมีมากกว่า1หัวข้อก็ได้
www.TrainingServ.com 13
การสอนงาน(On the Job Training)
เรียกได้ว่าเป็นอีรูปแบบหนึ่งของการฝึกอบรมที่ใช้วิธีนี้ในการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานโดยเป็นรูปแบบการ
ฝึกอบรมที่เน้นการพัฒนาบุคลากรแบบหนึ่งต่อหนึ่งโดยให้หัวหน้างานสอนงานผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่ปฏิบัติงานโดยมีการ
แบ่งซอยงานออกเป็นส่วนย่อยๆและมีการปฏิบัติงานให้ดูและให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามจนกระทั่งสามารถทางานได้ ซึ่ง
เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงมากเนื่องจากเป็นการสอนที่ใกล้ชิดกันและสามารถปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมแต่ละ
บุคคลที่รูปแบบการสอนแบบอื่นทาไม่ได้
การสอนผ่านสื่อ (Computer Aid Instruction)
ถ่ายการพัฒนาของเทคโนโลยีทาให้เกิดรูปแบบใหม่ของการสอนงานเป็นการสอนที่ผู้เรียนเรียนผ่านสื่อที่วิทยากรได้
จัดทาไว้แล้วไม่ว่าจะเป็นในรูปของวีดีโอเทปซีดีรอมแผ่นพลิก เอกสารคู่มือการเรียนฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสะดวกที่จะ
เรียนรู้ในเวลาที่ผู้เรียนว่างหรือในสถานที่ที่เหมาะสม
การเรียนผ่านอินเตอร์เน็ต (On Line Learning)
การสอนผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีการสอนที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นโดยทั่วไปในการศึกษาระดับต่าง แต่ใน
วงการฝึกอบรมก็นามาใช้เช่นเดียวกับที่มีการสอนผ่านทางอินเตอร์เน็ตเช่นหลักสูตรการสนทนาภาษาอังกฤษหลักสูตรการ
พัฒนาหัวหน้างานแต่มีข้อจากัดที่ต้องคานึงถึงได้แก่การที่ผู้เรียนกับผู้สอนไม่ได้เจอกันทาให้ไม่สะดวกในการสอบถามปัญหา
และการเรียนแบบนี้ผู้เรียนต้องมีความมุ่งมั่นมากพอจึงจะประสบความสาเร็จในการเรียนให้สาเร็จหลักสูตร
หัวใจของการอบรมที่ทาให้ผู้เข้าอบรมสนใจอยู่ตลอดเวลาอยู่ที่การมีส่วนร่วมของผู้เข้าอบรมเป็นการสอนแบบสอง
ทาง(TwoWay) ไม่ใช่เน้นแค่บรรยายทางเดียววิทยากรจานวนมากที่ไม่ประสบความสาเร็จในการสอนที่ไม่ได้รับความสนใจจาก
ผู้เข้าอบรมเพราะเน้นการสอนแบบทางเดียวมากเกินไปถ้าต้องการให้การสอนมีประสิทธิภาพให้ผู้เข้าอบรมกระตือรือร้นที่จะ
เรียนรู้จาเป็นต้องพัฒนาวีการสอนดังต่อไปนี้
www.TrainingServ.com 14
ใช้กิจกรรมเข้าช่วย (Activity Based Learning)
วิทยากรบางท่านประสบความสาเร็จในการสอนเพราะมีกิจกรรมต่างๆเข้ามาแทรกในการสอนอยู่ตลอดเวลาเป็น
ระยะๆทาให้ผู้เข้าอบรมกระตือรือร้นและสนุกที่จะเรียนรู้ และสนุกที่จะเรียนรู้ โดยพัฒนากิจกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละหัวข้อของ
เนื้อหาที่กาลังสอนจะช่วยให้ผู้เข้าอบรมประทับใจได้ โดยวิทยากรจะต้องเรียนรู้ในการนากิจกรรมต่างๆเช่นกิจกรรมปาเป้ าโดย
ใช้ลูกดอกปาเป้ า แล้วแข่งกันระหว่างแต่ละทีมว่าทีมไหนสามารถปาเป้ าได้คะแนนมากกว่ากันเป็นการสอนเรื่องการวางแผน
การทางานเป็นทีมการแบ่งงานกันทาและภาวะผู้นาของทีมเป็นต้น
การฝึกอบรมคืออะไร
การฝึกอบรมเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงความรู้ ทักษะและทัศนคติของผู้เข้ารับการอบรมให้เป็นไปตามเป้ าหมายที่
กาหนดไว้
จากคาจากัดความจะเห็นว่าการฝึกอบรมเป็นกระบวนการหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Processหมายถึงเป็นสิ่งที่
เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าจะทาให้การฝึกอบรมประสบความสาเร็จต้องทาให้ต่อเนื่องไมใช่ว่าพนักงานขาดทักษะในการบริการ
ลูกค้าแล้วจัดอบรม1ครั้งจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริการได้ทันทีจะต้องเป็นการทาเป็นกระบวนการคือ
www.TrainingServ.com 15
อาจจะมีการติดตามประเมินผลหลังฝึกอบรมและกลับไปปฏิบัติงานแล้วหรือจัดอบรมซ้าอีกครั้งถ้าการบริการลูกค้ายังไม่ดีพอ
ซึ่งมีหลายหน่วยงานไม่มองว่าการฝึกอบรมเป็นกระบวนการจึงจัดอบรมแล้วคาดผลลัพธ์ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแต่ไม่เป็นเช่นนั้น
ดังนั้นการฝึกอบรมเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงความรู้ให้มีมากขึ้นทักษะ
ความสามารถในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นและเปลี่ยนทัศนคติให้ถูต้องในทั้ง3 ด้านนี้การเปลี่ยนแปลงทัศนคติเป็นสิ่งทีทายาก
ที่สุดแต่ก็ทาได้เช่นเดียวกันเช่นการฝึกอบรมเพื่อปรับทัศนคติให้ทางานเป็นทีมเป็นต้นแต่การอบรมที่ดีนั้นควรเป็นการอบรมที่
ถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรมของสังคมด้วยเช่นไม่ควรอบรมเรื่องการโกงเงินธนาคารหรืออบรมเรื่องเทคนิคการเล่นการ
พนันให้ประสบความสาเร็จเป็นต้น
การฝึกอบรมดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในองค์กรสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นราชการหรือองค์กรเอกชนเพราะทุกคนเชื่อ
ว่าการฝึกอบรมจะช่วยให้บุคลากรมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น ให้บุคลากรมีทัศนคติในการทางานที่ดีสอดคล้อง
กับวัฒนธรรมองค์กรแต่อย่างไรก็ตามมีเจ้าของธุรกิจจานวนมากมักจะมองว่าการอบรมเป็นการสิ้นเปลืองพนักงานที่ผ่านการ
อบรมมาแล้วไม่สามารถช่วยให้บริษัทดีขึ้นซึ้งข้อเท็จจริงเป็นเพราะผู้บริหารท่านนั้นไม่ได้มองว่าการฝึกอบรมเป็นกระบวนการที่
ต่อเนื่องนั่นเอง
ในวงการฝึกอบรมมีคาหนึ่งที่มักจะพูดถึงกันเสมอคือคาว่า SoftSkillและHard Skillทาให้คนจานวนมากสับสนว่ามัน
คืออะไร คาว่าSoftSkill หมายถึงทักษะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานหลักของเขาได้แก่ การอบรมหลักสูตรSoftSkill เช่น
หลักสูตรการทางานเป็นทีม,จิตวิทยาสาหรับหัวหน้างาน,จิตสานึกการทางานเพื่อคุณภาพฯลฯเป็นต้น ส่วน Hard Skillได้แก่
การอบรมเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในตาแหน่งนั้นๆได้อย่างดีเช่นอบรมทักษะการใช้เครื่องคิดเงินสาหรับพนักงานขายหรือ อบรม
การจัดทาโครงการและงบประมาณสาหรับเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนถือได้ว่าเป็น HardSkill
www.TrainingServ.com 16
วงจรการฝึกอบรม
การฝึกอบรมมีขั้นตอนต่างๆที่วิทยากรควรจะทราบ6ขั้นตอนตามแผนผังวงจรการฝึกอบรมโดยเริ่มตั้งแต่การหา
ความจาเป็นในการอบรมจนสิ้นสุดที่การประเมินผลถ้าต้องการให้การฝึกอบรมได้ประสิทธิภาพควรจะต้องจัดทาให้ครบทั้ง6
ขั้นตอน ซึ่งมีหลายหน่วยงานมีการจัดอบรมโดยไม่มีการประเมินผลการอบรมหรือหน่วยงานจานวนมากขาดการหาความ
จาเป็นในการอบรมก่อนจะทาแผนฝึกอบรมทาให้การฝึกอบรมที่จัดขึ้นไม่ตรงตามความต้องการของหน่วยงานจึงเสมือนว่าการ
ฝึกอบรมนั้นเสียเปล่า
การหาความ
จาเป็นในการ
อบรม
เตรียมการ
ฝึกอบรม
จัดอบรม
การจัดทา
โครงการ
ฝึกอบรม
ประเมินผล
การจัดทา
แผนการ
ฝึกอบรม
www.TrainingServ.com 17
การหาความจาเป็นในการอบรม (Training Needs)
การหาความจาเป็นในการอบรมได้แก่ การสารวจรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อเป็นแนวทางในการจัดอบรมให้ได้อย่างมี
คุณภาพ ตรงกับเป้ าหมายขององค์กรซึ่งมักจะจัดทาปีละหนึ่งครั้งก่อนการจัดทางบประมาณของหน่วยงานเพื่อว่าเมื่อการ
จัดทาแผนฝึกอบรมของปีต่อไปเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถคานวณค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการอบรมปีหน้าใส่ในแผนงาน
งบประมาณได้ทันที
วิธีหาความจาเป็นในการอบรมทาได้หลายวิธีดังนี้
 การสัมภาษณ์
 แบบสอบถาม
 การสังเกตุ
 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
วิธีเริ่มจัดทาความจาเป็นในการอบรมมักจะเริ่มต้นด้วยการสร้างแบบสอบถามขึ้นมาถึงสิ่งที่หน่วยงานเห็นว่า
จาเป็นต้องพัฒนาบุคลากรในตาแหน่งใดบ้างและต้องการพัฒนาด้านไหนโดยการออกแบบสอบถามส่งให้หัวหน้างานหรือ
ผู้จัดการของแต่ละแผนกกรอกส่งกลับคืนมาโดยทาแบบสอบถามให้ง่ายสาหรับหัวหน้างานในการที่ใช้ เมื่อได้กลับคืนมาแล้วก็
รวบรวมจัดแบ่งออกเป็นการอบรมประเภทHardSkillและ SoftSkillบางหน่วยงานมีความต้องการที่เหมือนกันเช่นต้องการ
อบรมทักษะในการสื่อสารก็สามารถนาเอามารวบรวมอยู่ในหลักสูตรเดียวกันได้เป็นต้น
วิธีการสัมภาษณ์
วิธีหาความจาเป็นวิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมทาหน้าที่ไปสัมภาษณ์ หัวหน้างานผู้จัดการ
หรือผู้บริหารองค์กรถึงความความเห็นต่างๆเกี่ยวกับเป้ าหมายในปีหน้าขององค์กรสิ่งที่บุคลากรจะต้องพัฒนาเพื่อให้องค์กร
ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ผู้บริหารต้องการสัมภาษณ์ถึงปัญหาในการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นและผู้บริหารเห็นว่าจะต้องแก้ไขเช่น
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างแผนก,ปัญหาการปฏิบัติงานที่ไม่คานึงถึงคุณภาพทาให้มีสินค้าคืนมาเป็นจานวนมากสิ่งเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมรวบรวมและสรุปถึงความต้องการการฝึกอบรมจากการสัมภาษณ์ แล้วส่งให้ผู้บริหารเห็นชอบเป็นลายลักษณ์
อักษรอีกครั้งก่อนจะนาไปเป็นแนวทางในการจัดทาแผนการสอนต่อไป
www.TrainingServ.com 18
แบบสอบถาม
เราสามารถจัดหาความจาเป็นในการอบรมด้วยการใช้แบบสอบถามก็ได้ โดยการออกแบบสอบถามแล้วส่งไปให้
หัวหน้างานผู้จัดการและผู้บริหารกรอกตามที่กาหนดเมื่อรับแบบสอบถามกลับมาแล้วให้ดาเนินการประเมินผลแบบสอบถาม
และสรุปเป็นความจาเป็นในการอบรม
www.TrainingServ.com 19
ตัวอย่างแบบสอบถาม
ชื่อผู้ตอบ ................................................................ หน่วยงาน............................................................
ตาแหน่ง ................................................................... เบอร์ที่ติดต่อได้ ...................................................
กรุณากรอกแบบสอบถามให้ครบทุกข้อ
1) ท่านมีบุคลากรที่ท่านรับผิดชอบ จานวน........... คน
2) ท่านได้รับผิดชอบตาแหน่งปัจจุบันมาแล้ว.......... ปี ........ เดือน
3) ความเห็นของท่านท่านพอใจกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานมากน้อยเพียงใด
ก)มากที่สุด ข)มาก ค) พอใช้ ง) ไม่พอใจ
4) ขอให้ท่านเรียงลาดับจากมากไปหาน้อยในสิ่งที่ท่านเห็นว่าควรให้ความสาคัญในการพัฒนาบุคลากรใน
หน่วยงานท่าน (1คือมากที่สุดแล้วเรียงลาดับไป)
__) การตรงต่อเวลา
__ ) ความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย
__ ) ความปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร
__ ) การซื่อสัตย์สุจริต
__ ) ความรู้ความเข้าใจในงานที่รับผิดชอบ
__ ) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
__ ) ความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
__ ) การทางานอย่างไม่ย่อท้อ
__ ) การทางานเป็นทีม
__ ) ความภักดีกับองค์กร
www.TrainingServ.com 20
5) ในระยะเวลา5ปีข้างหน้าท่านเห็นว่าควรพัฒนาบุคลากรของท่านในด้านใดมากที่สุด
ก)............................................................
ข)...........................................................
ค)...........................................................
6) ตาแหน่งใดที่ท่านคิดว่าควรให้ความสาคัญเร่งด่วนในการพัฒนา
ก)............................................................
ข)...........................................................
ค)...........................................................
7) ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรในองค์กรของเรา
......................................................................................................................................
................................................................................................................................................
................................................................................................................................................
(ลงชื่อ)...................................................
วันที่ .................................
www.TrainingServ.com 21
วิธีการสังเกต
ผู้ทาหน้าที่จัดทาการหาความจาเป็นในการฝึกอบรมอาจจะใช้วิธีการสังเกตการณ์ปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กร
โดยสังเกตพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยและน่าจะนาไปปรับปรุงโดยการฝึกอบรมเช่นพฤติกรรมการบริการลูกค้าที่ไม่ถูกต้อง,ความ
ผิดพลาดในการบันทึกเอกสารตามเอกสาร ISO,การคานวณชิ้นส่วนการผลิตที่ผิดพลาดเป็นต้นสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ใน
การนาเอาไปจัดทาแผนการอบรมในปีต่อไปอย่างดีแต่สิ่งทีพึงระวังคือการใช้ทัศนคติส่วนตัวมากเกินไปแทนที่จะใช้ข้อมูลจาก
การสังเกตที่แท้จริง
ศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เราสามารถใช้เอกสารต่างๆในองค์กรเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทาความจาเป็นในการฝึกอบรมได้ เช่นเอกสารของ
การประเมินพนักงานรายบุคคลซึ่งจะระบุถึงปัญหาที่พนักงานควรจะแก้ไขหรือเอกสารการร้องเรียนจากลูกค้าหรือเอกสารการ
แก้ไขที่ไม่เป็นไปตามISO (ที่เรียกว่าCAR) หรือเอกสารวิสัยทัศน์ขององค์กรว่าผลการปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องของ
วิสัยทัศน์ที่กาหนดไว้หรือไม่
คุณสมบัติของวิทยากร
การเป็นวิทยากรใครก็เป็นได้ เป็นทักษะที่ฝึกได้เหมือนกับคนที่ขี่จักรยานไม่เป็นเมื่อได้รับการสอนและหมั่น
ฝึกฝนก็เป็นได้ เพียงแต่บางคนมีพรสวรรค์จะใช้เวลาน้อยกว่าคนที่ไม่มีพรสวรรค์เท่านั้นเองวิทยากรเป็นอาชีพที่คนทาหน้าที่นี้
จะภูมิใจเพราะเป็นอาชีพที่ช่วยให้คนดีขึ้นเก่งขึ้นเป็นอาชีพที่นอกจากช่วยให้วิทยากรมีรายได้แล้วยังช่วยสงเคราะห์คนอีกนับว่า
เป็นอาชีพที่ดีอาชีพหนึ่ง
www.TrainingServ.com 22
อย่างไรก็ดีการเป็นวิทยากรต้องการคนที่มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้เพื่อที่จะประสบความสาเร็จในอาชีพถ้าใครยัง
ขาดลักษณะไหนก็ควรหาทางปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมให้ได้ครบตามที่ควรเป็นได้แก่
ชอบการเรียนรู้
วิทยากรก็เป็นบุคคลที่ทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ จึงจาเป็นต้องเป็นผู้ชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่สิ่งที่ไม่เคยรู้
เพื่อจะได้นาไปสอนคนอีกจานวนมากได้ และความรู้เป็นสิ่งไม่หยุดนิ่งฉะนั้นจึงต้องการคนที่ขยันอยากจะเรียนรู้โดยการอ่าน
หนังสือ, เรียนรู้จากอินเตอร์เน็ต,จากการเข้าอบรมจากวิทยากรท่านอื่นๆ ยิ่งเรียนรู้มากยิ่งได้ประโยชน์ในการถ่ายทอดมาก
มีทักษะในการนาเสนอ
คนที่เป็นวิทยากรจาเป็นต้องมีทักษะที่ดีในการนาเสนอที่ดีที่สามารถสร้างความสนใจแกผู้ฟังได้ ต้องสามารถพูด
ภาษาไทยได้คล่องมีเทคนิคการนาเสนอที่หลากหลายสามารถจูงใจผู้ฟังได้ และควรจะเป็นผู้มีอารมณ์ขันด้วยก็จะช่วยให้การ
นาเสนอน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
เนื่องจากการเป็นวิทยากรเป็นงานที่จาเป็นต้องพบคนจานวนมากไม่ใช่งานที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จาเป็นต้องมี
มนุษย์สัมพันธ์กับผู้อื่นเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้คนรอบข้างทั้งความสามารถในการพูดในการฟังและทัศนคติที่ดีต่อคนที่
เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานจัดอบรมผู้เข้าอบรมที่หลากหลายผู้บริหารโครงการและทีมงานซึ่งเป็นปัจจัยความสาเร็จของ
การเป็นวิทยากร
มีความเชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่ง
วิทยากรที่เก่งควรเป็นความรู้ลึกในสาขาที่จะสอนเช่นในสาขาการตลาดหรือในสาขาการบริหารงานบุคคลควรจะ
เป็นคนที่เรียนมาทางด้านนี้และมีประสบการณ์ในการทางานในสาขานั้นๆจะเป็นวิทยากรที่ไม่มีประสบการณ์ในการทางานมา
ก่อนและไม่จาเป็นต้องรู้ทุกเรื่องควรรู้และเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องเท่านั้น
www.TrainingServ.com 23
สามารถปรับตัวได้ดี
เนื่องจากวิทยากรเป็นงานที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่หลากหลายเจอในสิ่งที่ไม่คาดหมายมาก่อนเช่นไปจัดอบรมให้
คนบางกลุ่มที่ไม่สนใจเรียน,สถานที่อบรมมีปัญหา,การถูกเปลี่ยนแปลงกาหนดการกะทันหันซึ่งเป็นสิ่งที่วิทยากรจะต้องพร้อมที่
จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เสมอไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
การจัดทาแผนการสอน
เมื่อได้จัดทาเนื้อหาเสร็จแล้วก็ถึงเวลาการจัดทาแผนการสอนหรือที่เรียกว่า LessonPlanเพื่อเป็น แนวทางในการ
สอนที่จะเกิดขึ้นต่อไปโดยดาเนินการดังนี้
1. ศึกษารายละเอียดของเนื้อหาอย่างรอบคอบโดยพิจารณาว่าเนื้อหานั้นมีวัตถุประสงค์อย่างไรและจะ
สามารถทาให้เหมาะสมกับเวลาที่ใช้สอนอย่างไร
2. ถ้าเกิดกรณีว่าเนื้อหามีมากเกินกว่าเวลาที่สอนให้พิจารณาเลือกหัวข้อสาคัญมาสอนอย่าพยายามสอนทุกเรื่อง
ในเวลาจากัดเพราะผู้เรียนจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาจากัดให้ยึดหลักว่า “ถ้าสอนมากผู้เรียนจะได้น้อย”มุ่งให้ความสนใจ
กับหัวข้อที่สาคัญที่สุดและเน้นตรงนั้นหรือหาทางเพิ่มเวลาสอนเพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหา
3. การเตรียมแผนการสอนให้แบ่งเป็น3 ส่วนประกอบด้วยส่วนที่หนึ่ง เรียกว่าบทนา ส่วนที่สอง เรียกว่าเนื้อหา
ส่วนที่สามเรียกว่าบทสรุป ส่วนแรกที่เรียกว่าบทนาสิ่งที่ต้องเตรียมก็คือประโยคที่จะสร้างความสนใจความตื่นตัวให้กับผู้ฟัง
เมื่อจะเริ่มสอนโดยใช้เทคนิคที่สร้างความสนใจ
www.TrainingServ.com 24
เมื่อจะเริ่มสอน
การเตรียมการก่อนที่จะสอน
 วิทยากรจาเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการสอนในวันถัดไปเพราะว่าวิทยากรที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
เมื่อทาหน้าที่สอนจะไม่สามารถสอนได้ดีสมองไม่แจ่มใสพอจะทาให้การสอนสนุกและน่าสนใจบางครั้งอาจจะลืมบางหัวข้อ
หรือลืมตัวอย่างดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ ดังนั้นการนอนให้พอจึงเป็นพื้นฐานของการเป็นผู้นาเสนอที่ดี
 สิ่งที่สาคัญเมื่อเตรียมการสอนที่วิทยากรหลายคนอาจจะไมให้ความสาคัญคือการซ้อมล่วงหน้าเพราะการ
ซ้อมนอกจากจะทาให้เรามีความเชื่อมั่นในการนาเสนอแล้วการนาเสนอไหลลื่นไม่ติดขัดโดยเฉพาะวิทยากรมือใหม่ขาด
ประสบการณ์ จาเป็นต้องซ้อมอย่างเต็มที่โดยพยายามซ้อมให้เหมือนจริงหน้ากระจกเหมือนนักแสดงที่จะต้องไปแสดงในวันแรก
 วิเคราะห์ว่าผู้ฟังเป็นใครการสอนที่ดีต้องรู้จักและเข้าใจผู้ฟังเพื่อจะนาเสนอให้ตรงความต้องการเขาการสอนก็
เหมือนงานบริการประเภทหนึ่งจาเป็นต้องสร้างความพึงพอใจให้ผู้เรียนผู้สอนต้องทาหน้าที่สอนที่วิเคราะห์ว่าผู้เรียนเป็นใคร
อายุเท่าไรประสบการณ์การทางานกี่ปี ตาแหน่งอะไรและที่สาคัญเคยเรียนวิชานี้มาก่อนหรือไม่เพราะถ้าผู้เรียนเคยเรียนวิชานี้
มาก่อนผู้สอนจาเป็นต้องปรับเนื้อหาให้แตกต่างน่าสนใจขึ้นหรือเพิ่มเนื้อหาในส่วนที่ผู้เรียนยังไม่เคยเรียน
 ในการเตรียมเนื้อหาอย่าลืมเราไม่สามารถสอนให้คนรู้ทุกเรื่องได้ในเวลาจากัดดังนั้นจึงต้องมีหัวข้อหลักที่นา
สนออย่างน้อย1 หัวข้อเสมออย่าสอนโดยมีหัวข้อมากมายและไม่มีหัวข้อหลักคนจะไม่รู้ว่ากาลังสอนเรื่องอะไรเช่นบรรยาย
เกี่ยวกับรถยนต์ผู้บรรยายพูดเกี่ยวกับประเภทรถยนต์เครื่องยนต์ระบบช่วงล่างห้ามล้อการตกแต่งรถยนต์ในเวลา3ชั่วโมง
ผู้ฟังจะจับไม่ได้ว่าผู้พูดต้องการนาเสนออะไรดังนั้นควรเลือกเฉพาะหัวข้อหลักมานาเสนอเช่นนาเสนอเรื่องระบบช่วงล่าง
รถยนต์อาจจะเพิ่มส่วนระบบเบรกเข้ามาเสริมก็จะทาให้ผู้ฟังเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
www.TrainingServ.com 25
 ในการเตรียมเนื้อหาจาเป็นต้องคานึงถึงสื่ออุปกรณ์ ที่ต้องใช้ประกอบในการสอนด้วยว่าในขั้นตอนนี้จะต้องใช้
สื่อประเภทใด เช่นเพาเวอร์พอยต์,สื่อวีดีโอคลิป,ฟลิปชาร์ต,อุปกรณ์จาลอง,อุปกรณ์จริงในการบรรยายจะต้องใช้สื่อพวกนี้
อย่างไรบ้างให้เตรียมเอาไว้ด้วย
 สิ่งที่จะรู้ก่อนทาเนื้อหาประการหนึ่งคือเนื้อหาของแต่ละครั้งที่สอนจาเป็นต้องปรับตามกลุ่มผู้ฟังเสมอไม่ใช่
เตรียมเนื้อหาครั้งเดียวแล้วใช้สอนทุกครั้งเช่นถ้ากลุ่มผู้เรียนเป็นพนักงานใหม่ย่อมต้องการการเรียนรู้แตกต่างจากผู้จัดการที่มี
ประสบการณ์ในการทางานมาก่อนหรือการสอนวัยรุ่นย่อมต้องการเรียนรู้แตกต่างกับผู้อาวุโสเป็นต้น
ประเภทผู้เข้าอบรม
 กรณีบุคคลที่มั่นใจในตัวเองมากให้ใช้เทคนิคยอและให้เกียรติว่าวันนี้เราได้รับเกียรติจากผู้เข้าอบรมที่มี
ประสบการณ์สูงในสิ่งที่จะบรรยายให้หันไปถามความเห็นเขาเป็นระยะๆทาให้เขารู้สึกว่าเขาได้รับเกียรติและจะมีส่วนร่วมเป็น
ผู้สนับสนุนการสอนของเรา
 ในบางกรณีจะใช้เทคนิคใช้ตัวอย่างที่เป็นโจทย์ที่ยากแล้วบอกว่าโจทย์นี้เป็นโจทย์ธรรมดาที่ใครก็ทาได้ ทาให้ผู้
ที่มั่นใจว่าตัวเองเก่งหรือผู้มีความมั่นใจตัวเองสูงรู้สึกว่าเขาคงจะไม่เก่งจริงก็อาจจะมาสนใจการสอนได้
 เมื่อเจอผู้ฟังที่พูดมากพูดแทรกผู้บรรยายบ่อยครั้งที่จะเจอคนประเภทนี้ ก็มักจะพูดแสดงความเห็นพูดอย่าง
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบรรยายแนวทางที่ดีก็คือให้เน้นย้ากติกาในการแสดงความเห็นเช่นบอกว่า “ เนื่องจากมีผู้เข้าอบรม
จานวนมากเราจาเป็นต้องตกลงกติกาในการแสดงความเห็นสักเล็กน้อยกรุณาแสดงความเห็นคนละไม่เกิน5นาทีเพื่อให้
โอกาสเพื่อนๆได้แสดงความเห็นบ้างนะครับ”
www.TrainingServ.com 26
จิตวิทยาการสอนของผู้ใหญ่
ปกติการฝึกอบรมเป็นการสอนที่แตกต่างจากการศึกษาทั่วไปที่การศึกษาทั่วไปเป็นการสอนสาหรับเยาวชน
แต่การฝึกอบรมเป็นการสอนที่ผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นวัยทางานตั้งแต่ผู้จบใหม่จนถึงบุคคลอายุ60 - 70 ปี ดังนั้นผู้สอนจึง
จาเป็นต้องเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ เพื่อช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผู้ใหญ่ชอบที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ใกล้ตัวสิ่งที่เขาเกี่ยวข้องมีประสบการณ์ร่วมมากกว่าเรื่องที่เป็นทฤษฎีหรือเป็น
สิ่งที่เป็นนามธรรมเหมือนที่สอนในมหาวิทยาลัยเนื่องจากผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ผ่านการเรียนในระบบมาแล้วเมื่อมีประสบการณ์
การทางานมาเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงมักจะสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพหรือประสบการณ์ของเขาเช่น
พนักงานธนาคารย่อมสนใจเรียนรู้เทคนิคการบริหารเงินกู้ในรูปแบบกรณีตัวอย่างมากกว่าจะเรียนรู้แต่ทฤษฎีเท่านั้น
ผู้ใหญ่ต้องการการมีส่วนร่วมในการเรียนมากกว่าเยาวชนเพราะผู้ใหญ่เมื่อผ่านประสบการณ์การทางานมาระยะหนึ่ง
ย่อมเริ่มที่จะมีความมั่นใจขึ้นอยากจะแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ ถ้าวิทยากรสามารถ กระตุ้นให้เขามีส่วนร่วมในการแสดง
ความเห็นจะทาให้เขามีพึงพอใจการฝึกอบรมครั้งนั้นมากกว่าที่เขาต้องนิ่งฟังอย่างเดียว
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะสร้างความสนใจให้กับผู้เรียนที่เป็นผู้ใหญ่คือการสอนในเรื่องที่เขาสนใจไม่ใช่สอนในสิ่งที่หน่วยงาน
อยากให้เขาเรียนหรือสิ่งที่วิทยากรอยากสอนดังนั้นต้องเลือกเรื่องที่สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าอบรมได้เสียก่อนหรือพยายามปรับ
เรื่องที่จะสอนให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ฟัง
www.TrainingServ.com 27
พยายามปรับเนื้อหาให้สัมพันธ์กับหน้าที่การงานของผู้เข้าอบรมจะสร้างความสนใจกับผู้เข้าอบรมเป็นผู้ใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น
รวมทั่งยกตัวอย่างหรือกรณีศึกษาให้เกี่ยวพันธ์กับผู้เข้าอบรมเช่นผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มหัวหน้างานจากธุรกิจค้าปลีกแม้คุณสอน
วิชาทางด้านการสื่อสารก็ต้องพยายามหาตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับค้าปลีกมาใช้ จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
 เริ่มต้นด้วยคาถาม
(ในที่นี้ใครคิดว่าตัวเองรวยบ้างครับ)
(การทาบุญแล้วไม่กรวดน้าจะไม่ได้บุญอย่างที่ตั้งใจใช่ไหม)
(ถึงเวลาหรือยังที่พวกเราจะมีโรงไฟฟ้ าพลังนิวเครียร์)
 เริ่มต้นด้วยการนาสถานการณ์ปัจจุบันมาเกริ่นนา
(เมื่อเช้านี้กว่าจะมาถึงต้องฝ่ าการจราจรมาปกติใช้เวลาแค่30นาที แต่วันนี้พิเศษ
ใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่ง)
(เมื่อคืนได้ดูละคร___ไหมครับเป็นอย่างไรบ้าง)
(ยินดีต้อนรับทุกท่านที่สามารถรอดตัวไม่ถูกน้าท่วมและมาถึงที่นี่จนได้)
 เริ่มต้นด้วยอารมณ์ขัน
(พวกเรารู้ไหมที่ไหนในประเทศไทยที่มีพระนอนมากที่สุด? คาตอบ – โรงพยาบาลสงฆ์)
(วันนี้มีความยินดีที่ได้มาพบพวกเดียวกันพวกเราเป็นพวกที่ขาดความรักและทาดีไม่มีคนเห็น
แต่ทาชั่วทีไรถูกจับได้ทุกที)
 เริ่มต้นด้วยกลอนหรือคาคม ของบุคคลสาคัญ
(ยามศึกเรารบยามสงบคือการปฏิวัติ)
(การเรียนแม้เหนื่อยยากย่อมลาบากอย่าท้อแท้ สุดท้ายที่รอคอยคืออนาคตอันงดงาม)
(การลงมือทาสาคัญกว่าการพูด)
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ
วิทยากรมืออาชีพ

Mais conteúdo relacionado

Semelhante a วิทยากรมืออาชีพ

Chapter 4 1
Chapter 4 1Chapter 4 1
Chapter 4 1sinarack
 
สื่อการเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้สื่อการเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้AomJi Math-ed
 
ระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วยระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วยtyehh
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยNoppasorn Boonsena
 
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้Pennapa Kumpang
 
Develop Buddhist Teacher.pdf
Develop Buddhist Teacher.pdfDevelop Buddhist Teacher.pdf
Develop Buddhist Teacher.pdfPattie Pattie
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8nattawad147
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8benty2443
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8wanneemayss
 
ปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตร
ปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตรปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตร
ปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตรPateemoh254
 
ภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วยภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วยArm Watcharin
 
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจShe's Kukkik Kanokporn
 
บทที่ 4 sec 1
บทที่ 4 sec 1บทที่ 4 sec 1
บทที่ 4 sec 1yaowalakMathEd
 

Semelhante a วิทยากรมืออาชีพ (20)

Chapter 4 1
Chapter 4 1Chapter 4 1
Chapter 4 1
 
สื่อการเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้สื่อการเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้
 
ระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วยระดับครผู้ช่วย
ระดับครผู้ช่วย
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
 
Ch 2
Ch 2Ch 2
Ch 2
 
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
บทที่ 4 สื่อการเรียนรู้
 
Develop Buddhist Teacher.pdf
Develop Buddhist Teacher.pdfDevelop Buddhist Teacher.pdf
Develop Buddhist Teacher.pdf
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
บทที่ 8
บทที่ 8บทที่ 8
บทที่ 8
 
ปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตร
ปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตรปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตร
ปรัชญาและการพัฒนาหลักสูตร
 
ภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วยภารกิจครูผู้ช่วย
ภารกิจครูผู้ช่วย
 
ระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรม
ระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรมระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรม
ระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรม
 
ระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรม
ระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรมระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรม
ระดับครูผู้ช่วยนวัตกรรม
 
4 ตอน4 sar55
4 ตอน4 sar554 ตอน4 sar55
4 ตอน4 sar55
 
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจครูผู้ช่วย ภารกิจ
ครูผู้ช่วย ภารกิจ
 
บทที่ 4 sec 1
บทที่ 4 sec 1บทที่ 4 sec 1
บทที่ 4 sec 1
 

Mais de Utai Sukviwatsirikul

Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืนNanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืนUtai Sukviwatsirikul
 
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลันClinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลันUtai Sukviwatsirikul
 
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...Utai Sukviwatsirikul
 
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoeaSaccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoeaUtai Sukviwatsirikul
 
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)Utai Sukviwatsirikul
 
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee VaravithyaDrugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee VaravithyaUtai Sukviwatsirikul
 
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...Utai Sukviwatsirikul
 
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...Utai Sukviwatsirikul
 
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...Utai Sukviwatsirikul
 
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไตแนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไตUtai Sukviwatsirikul
 
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงUtai Sukviwatsirikul
 
ความรู้เรื่องโรคไต
ความรู้เรื่องโรคไตความรู้เรื่องโรคไต
ความรู้เรื่องโรคไตUtai Sukviwatsirikul
 
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)Utai Sukviwatsirikul
 
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการUtai Sukviwatsirikul
 
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉินข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉินUtai Sukviwatsirikul
 

Mais de Utai Sukviwatsirikul (20)

Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืนNanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
Nanoxร้านยาใช้สื่อ Social อย่างไร ให้ได้ยอดขาย…อย่างยั่งยืน
 
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลันClinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
Clinical Guidance for Acute Pain Management เเนวทางพัฒนาการระงับปวดเฉียบพลัน
 
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการสินค้าคงคลัง ของร้านขายยา ...
 
Supply chain management
Supply chain managementSupply chain management
Supply chain management
 
Best practice in communication
Best practice in communicationBest practice in communication
Best practice in communication
 
Basic communication skills 2554
Basic communication skills 2554Basic communication skills 2554
Basic communication skills 2554
 
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoeaSaccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea
 
SME Handbook
SME HandbookSME Handbook
SME Handbook
 
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
การใช้โพรไบโอติกทางการแพทย์ (Medical Uses of Probiotic)
 
Scientific evidence of BIOFLOR
Scientific evidence of BIOFLORScientific evidence of BIOFLOR
Scientific evidence of BIOFLOR
 
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee VaravithyaDrugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
Drugs Used in Acute Diarrhea Wandee Varavithya
 
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
Systematic review with meta-analysis: Saccharomyces boulardii in the preventi...
 
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
Meta-Analysis of Probiotics for the Prevention of Antibiotic Associated Diarr...
 
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
Saccharomyces boulardii in the prevention of antibiotic-associated diarrhoea ...
 
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไตแนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
แนวทางการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนทางไต
 
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
 
ความรู้เรื่องโรคไต
ความรู้เรื่องโรคไตความรู้เรื่องโรคไต
ความรู้เรื่องโรคไต
 
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
แนวทางการพัฒนาการตรวจรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ในคนไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔)
 
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
 
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉินข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน
ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน
 

วิทยากรมืออาชีพ

  • 2. www.TrainingServ.com 2 วิทยากรมืออาชีพ โดย ดร.บัญชา วิชยานุวัติ คานา ผมเคยเรียนมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศและเช่นเดียวกันเคยเข้าอบรมกับหน่วยงานต่างๆที่ทางานอยู่เคยเข้า อบรมกับวิทยากรระดับโลกและเคยเข้าอบรมหลักสูตรยาวถึงหนึ่งสัปดาห์กับองค์การระหว่างประเทศ ผมพบว่าวิทยากรจานวน มากเป็นวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์ในสิ่งที่นาเสนอดีแต่น่าเสียดายที่ขาดเทคนิคการนาเสนอที่น่าสนใจทาให้ผู้เรียน ไม่กระตือรือร้นที่จะฟังไม่ว่าวิทยากรจะมีความรู้ดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าผู้ฟังไม่ฟังซะแล้วความรู้นั้นจึงไม่มีประโยชน์อันใด เช่นเดียวกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจาพวกสอนหนังสือโดยไม่รู้หลักการสอนที่ดีจึงล้มเหลวในการถ่ายทอดความรู้ หนังสือเล่ม นี้รวบรวมความรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนในฐานะที่ทางานทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชนมากว่า25ปี เคยเป็น ผู้จัดการทั่วไปด้านฝึกอบรมของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยเคยเป็นทั้งผู้เข้ารับการอบรมผู้จัดอบรมและ วิทยากร ได้รวบรวมความรู้ และประสบการณ์เพื่อแบ่งปันให้ผู้ที่ทาหน้าที่วิทยากรอาจารย์ผู้บริหารหัวหน้างานที่จาเป็นต้องทาหน้าที่ สอนหรือ นาเสนองานต่างๆให้ได้เรียนรู้ พัฒนาประสิทธิภาพการสอนให้ดียิ่งขึ้น
  • 3. www.TrainingServ.com 3 น่าเสียดายที่ผู้บริหารประเทศท่านหนึ่งได้นาเสนอโครงการของรัฐบาลที่ทาเนียบรัฐบาลโดยเชิญชาวนาผู้ใช้แรงงาน แม่บ้านข้าราชการนักธุรกิจมาฟังแนวทางที่รัฐบาลจะใช้ต่อไปในการบริหารประเทศนักการเมืองท่านนั้นเป็นนักการเมืองที่มี ชื่อเสียงว่าพูดได้ดีพูดได้น่าฟังแต่เมื่อลองนาเสนอต่อหน้าชาวบ้านระดับรากหญ้าที่ไม่ใช่นักวิจารณ์แล้วผลปรากฏว่าล้มเหลว เพราะนักการเมืองท่านนั้นไม่ได้พูดถ้อยคาที่ง่ายสาหรับชาวบ้านที่จะเข้าใจเนื้อหาที่ท่านนาเสนอก็มีจานวนมากมีหลาย ประเด็นเกินไปจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นประเด็นหลักและประเด็นรองและจบการนาเสนออย่างเป็นทางการซึ่งไม่ได้สร้างความ ประทับใจกับผู้ฟังเลยในวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์รายงานผลการนาเสนอโครงการของรัฐบาลอย่างธรรมดาไม่มีจุดเด่นที่ หนังสือพิมพ์จะนาเสนอให้น่าสนใจได้ การลงทุนนาเสนอในวันนั้นจึงล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า อย่างไรก็ตามการสอนหรือการนาเสนอเป็นทักษะที่ทุกท่านสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ เช่นเดียวกับทักษะในการขับ รถหรือทักษะในการวาดรูปคนส่วนใหญ่ไม่สามารถนาเสนอได้ดี(ยกเว้นคนจานวนน้อยเท่านั้นที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ใน การพูด)แต่การเรียนรู้ และฝึกฝนสามารถช่วยให้เขาเป็นผู้ที่สอนได้เก่งนาเสนอได้ประทับใจซึ่งหนังสือเล่มนี้มั่นใจว่าจะช่วยให้ ท่านประสบความสาเร็จได้อย่างแท้จริง หัวใจของวิทยากร อะไรคือหัวใจของการเป็นวิทยากรที่เก่งก่อนอื่นต้องกลับมาย้อนดูว่าเป้ าหมายของวิทยากรคืออะไรวิทยากรมีหน้าที่ ในการสอนเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้เข้าอบรมในด้านใดด้านหนึ่งไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความเข้าใจหรือทัศนคติ ถ้าการสอนของวิทยากร ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้เลยการเป็นวิทยากรถือว่าไม่ประสบความสาเร็จดังนั้นการเป็นวิทยากรต้องสามารถ เปลี่ยนแปลงบุคคลได้ เมื่อภารกิจของวิทยากรคือการเปลี่ยนแปลงดังนั้นความสามารถหลักของวิทยากรคือการทาให้เชื่อหรือเทคนิคการ จูงใจนั่นเอง วิทยากรจะต้องใช้ทักษะนี้มากเป็นพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้ฟังเชื่อและเปลี่ยนแปลงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ใช่แค่ทาหน้าที่ เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เท่านั้นเพราะถ้าวิทยากรทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ เมื่อผู้เข้ารับการอบรมรับรู้แต่ไม่ลงมือปฏิบัติตามที่ได้ เรียนรู้มาการฝึกอบรมก็จะไม่มีประโยชน์อันใดเช่นวิทยากรสอนให้มีความรู้ในการป้ องกันอัคคีภัยในโรงงานเมื่อผู้เข้ารับการ อบรมรับรู้แล้วแต่ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมในการปฏิบัติงานยังคงทางานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยเหมือนเดิม
  • 4. www.TrainingServ.com 4 แม้เขาจะได้เรียนรู้แล้วก็ตามก็จะถือว่าการฝึกอบรมนี้ไม่มีประสิทธิภาพเพราะทาให้แค่ผู้เข้าอบรมรู้ แต่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม วิทยากรจึงควรต้องคานึงถึงความสาคัญข้อนี้ให้มากเพราะจะมีผลมากต่อการจัดทาแผนการสอนและการเลือกวิธีการสอน เมื่อการอบรมคือการเปลี่ยนพฤติกรรมด้านใดด้านหนึ่งของผู้เข้าอบรมในด้านความรู้ หรือทักษะหรือทัศนคติ การ พยายามเปลี่ยนแปลงความรู้และทักษะดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดแต่เขาจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้เข้าอบรมได้ หรือ? คาตอบคือ มีการอบรมหลายประเภทที่สามารถเปลี่ยนทัศนคติคนได้แม้จะยากก็ตามเช่น การอบรมเพื่อให้เลิกสูบบุหรี่ ภายใน7 วันหรือการอบรมเพื่อให้รักชาติเช่นเมื่อ 20 ปีที่แล้วเคยมีการอบรมลูกเสือชาวบ้านอย่างการทั่วประเทศไทยเพื่อเป็น การสร้างความชาตินิยมในหมู่ประชาไทยเพื่อต่อต้านการแพร่ของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุคนั้นวิธีการอบรมจะใช้เวลา5วัน4 คืน โดยผู้เข้าอบรมจะถูกแบ่งให้อยู่ในแต่ละหมู่สีๆละ10-12 คนโดยแต่ละหมู่สีจะมีภารกิจให้ทาในแต่ละวันจานวนมากจนได้นอน แค่วันละ3 – 4 ช.ม.เท่านั้น ในตอนเช้าจะเป็นกิจกรรมเข้าอบรมฟังวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับชาติและประชาชนไทยและภัยจาก ลัทธิตรงข้ามในขณะบรรยายผู้เข้าอบรมจะถูกให้ร้องเพลงรักชาติรักหมู่คณะเป็นระยะๆ กรณีที่ผู้เข้าอบรมถูกให้ทากิจกรรม และได้นอนในแต่ละคืนน้อยทาให้เมื่อต้องมานั่งฟังวิทยากรในห้องอบรมทาให้ง่ายในการทาให้ผู้เข้าอบรมเชื่อได้ดีกว่าใน ขณะที่ผู้เข้าอบรมมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพราะในขณะที่มนุษย์มีร่างกายอ่อนแอการใช้ความคิดของตัวเองเพื่อคิดวิเคราะห์ สิ่งที่ได้ฟังว่าจะควรเชื่อหรือไม่จะมีน้อยกว่าคนที่ร่างกายแข็งแรงและเมื่อได้ฟังสิ่งเดิมซ้าๆบ่อยๆย่อมทาให้เชื่อได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นการที่ผู้เข้าอบรมต้องสังกัดกลุ่มสีจะถูกอิทธิพลของกลุ่มทาให้ต้องทาตามโดยไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งนี้เป็นตัวอย่าง ของการใช้การฝึกอบรมเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้เข้าอบรม
  • 5. www.TrainingServ.com 5 อย่างไรก็ตามการฝึกอบรมที่ดีเป็นกระบวนการ(Process)ถ้าต้องการให้การฝึกอบรมมีประสิทธิภาพจาเป็นต้อง ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การฝึกอบรมเพียงครั้งเดียวอาจไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้ ถ้าต้องมีกระบวนการต่อเนื่องเช่น ฝึกอบรมเรื่องการป้ องกันอัคคีภัยเมื่อผ่านการอบรมแล้วต้องมีกระบวนการต่อเนื่องด้วยการให้ลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ได้เรียนมา และให้มีการติดตามผลการปฏิบัติเป็นระยะโดยหัวหน้างานเพื่อให้คาแนะนาและแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นหรือส่งผู้ เข้าอบรมซ้าเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรสามารถปฏิบัติงานได้จริง การฝึกอบรมที่ดีจึงเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคนหลายกลุ่มตั้งแต่ผู้บริหารที่จะให้นโยบายฝึกอบรมมาฝ่ าย ฝึกอบรมที่จะทาหน้าที่บริหารการฝึกอบรมหัวหน้างานทาหน้าที่คัดเลือกบุคลากรเข้าอบรมและติดตามประเมินผลหลังฝึกอบรม คนทุกกลุ่มเหล่านี้มีความสาคัญต่อความสาเร็จของการอบรมทั้งสิ้นซึ่งปัญหาที่มักจะเกิดก็ก็คือหัวหน้างานมักจะส่งคนเข้า อบรมโดยใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมเช่นส่งเข้าอบรมทุกคนโดยไม่ได้พิจารณาว่าแต่ละคนมีความรู้ ความสามารถแตกต่างกัน อย่างไร ในข้อเท็จจริงในองค์กรจะมีบุคลากรมีความรู้ ความสามารถแตกต่างกันการพิจารณาส่งคนเข้าอบรมจะต้องตรวจสอบ ความรู้ทักษะของบุคลากรแล้วส่งเข้าอบรมสาหรับผู้ที่พิจารณาว่าขาดความรู้ทักษะนั้นเท่านั้น การวิเคราะห์ผู้ฟัง เคยสงสัยไหมว่าทาไมเวลาวิทยากรบางคนบรรยายท่านเมื่อได้ยินชื่อว่าวิทยากรท่านนี้จะมีบรรยายก็เกิดความรู้สึกไม่ อยากฟังแล้วแม้จะมาบรรยายให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วยซ้าแต่สาหรับวิทยากรบางท่านท่านยอมเสียเงินเพื่อเข้าไปฟังบรรยาย แม้จะต้องยอมเดินทางไกลแม้จะต้องยอมเสียงานก็ตามคาตอบคือวิทยากรบางท่านสามารถนาเสนอได้ตรงกับความต้องการ ของท่านได้ดีกว่าวิทยากรอีกท่านหนึ่งแต่ไม่ใช่วิทยากรทุกคนสามารถนาเสนอสร้างความพึงพอใจได้กับคนทุกคนปัญหาสาคัญ เบื้องต้นของวิทยากรคือต้องรู้ว่าผู้ฟังเป็นใครเพื่อจะนาเสนอเนื้อหาและรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้ฟัง ก่อนนาเสนอกับผู้ฟังจะต้องเรียนรู้ให้ได้ว่าผู้ฟังเป็นใครการคาดเดานาปัญหามาให้วิทยากรเสมอเพราะในหลายกรณี ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งวิธีการหาข้อมูลว่าผู้ฟังเป็นใครก็อาศัยการสอบถามข้อมูลผู้จัดอบรมข้อมูลทางเว็บไซต์จากวิทยากรที่ เคยไปสอนมาแล้วหรือสอบถามกับผู้เข้าอบรมโดยตรงซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฟังที่จาเป็นต้องคานึงถึงมีดังนี้
  • 6. www.TrainingServ.com 6 กลุ่มอายุ ต้องหาข้อมูลด้วยว่าผู้ฟังเป็นคนกลุ่มอายุเท่าใดเพราะคนแต่ละรุ่นก็มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันเข่นคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มชอบการสื่อสารที่สั้น กระชับ ผ่านทางอีเมล์, ข้อความสั้น, โซเชียลเน็กเวิร์ด ไม่ชอบการพูดหรือการบรรยายที่ยาว มี นักแสดงในดวงใจมีดนตรีที่ชอบแตกต่างกันจากคนรุ่นก่อนฉะนั้นผู้บรรยายจาเป็นต้องปรับตัวให้ผู้ฟังแต่ละกลุ่มสนใจโดยทั่วไป เราสามารถแบ่งกลุ่มผู้ฟังตามกลุ่มอายุได้ดังนี้ กลุ่มผู้ใหญ่ เกิดก่อน 1945 เบบี้บูม เกิดระหว่าง 1945 –1964 เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ เกิดระหว่าง 1965 –1980 นิวมิลลิเนี่ยม เกิดหลัง 1980 เจนเนอเรชั่นแซด เกิดหลัง 2000 เมื่อเราต้องสอนผู้เรียนที่เป็นกลุ่มนิวมิลลิเนี่ยม อายุ 15 -20 ปี จึงไม่แปลกใจที่อาจารย์ที่สอนที่โรงเรียนกวดวิชา ทั้งหลายมักจะแต่งตัวทันสมัยเหมือนนักร้องเกาหลี เปิดเพลงสลับการสอนมีจังหวะพูดที่สนุกและเร็ว ใช้ภาษาที่ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ อาจจะไม่ค่อยชอบ และมีอารมณ์สนุกตลอดเวลา ซึ่งสามารถสร้างความสนใจกับกลุ่มผู้เรียนได้อย่างดี กลุ่มเพศ ผู้ฟังที่เป็นผู้หญิงและผู้ชายมีความคาดหวังแตกต่างกันผู้บรรยายจาเป็นต้องคานึงถึงการใช้คาพูดที่อาจจะไป กระทบกับเพศใดเพศหนึ่งได้ เช่นการยกตัวอย่างว่าผู้ชายแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงเสมอฉะนั้นจึงเป็นผู้บริหารจานวนมากกว่า ผู้หญิง เป็นตัวอย่างที่สร้างความไม่พอใจกับผู้หญิง หรือการใช้คาพูดต้องระวังสรรพนาม เช่น ใจเสาะเหมือนผู้หญิง, อกสามศอก
  • 7. www.TrainingServ.com 7 อาชีพของผู้ฟัง ผู้ฟังแต่ละอาชีพมีความสามารถและความชานาญแตกต่างกันในแต่ละอาชีพ เช่น ผู้ฟังที่เป็นนักบัญชี ต้องการ อะไรที่เป็น และมีรายละเอียดส่วนนักกฎหมาย และนักโปรแกรมเมอร์ ต้องการอะไรที่เป็นเหตุเป็นผล ที่สามารถอ้างอิงและหา คาตอบได้ ในขณะที่นักการตลาดชอบความแตกต่างความหลากหลายและความคิดแปลกใหม่ถ้าผู้บรรยายเข้าใจกลุ่มผู้ฟังแต่ ละกลุ่มได้แล้วจะสามารถนาเสนอได้ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น เช่น เมื่อต้องการสอนนักขาย ไม่จาเป็นต้องบรรยายมาก ใช้ กิจกรรมเข้าช่วยจะได้บรรยากาศที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เอากิจกรรมไปใช้เยอะกับนักบัญชี นักบัญชีจะรู้สึกว่าการสอนครั้งนี้ ไม่ได้เนื้อหาตามที่คาดเอาไว้ นอกจากนั้นต้องคานึงถึงภาษที่ใช้เฉพาะในแต่ละอาชีพด้วย ซึ่งมักจะมีการการใช้ภาษาเฉพาะในอาชีพ ที่ควรจะ เรียนรู้ เช่นการสอนบุคลากรทางการแพทย์จาเป็นต้องเข้าใจศัพท์เทคนิค,หรือการสอนช่าง ก็ควรเรียนรู้ศัพท์เฉพาะด้านทาให้ ผู้ฟังรู้สึกว่าวิทยากรเป็นผู้เชี่ยวชาญและรู้จริงในสิ่งที่จะสอน
  • 8. www.TrainingServ.com 8 การบริหารสิ่งแวดล้อมในการอบรม ความสาเร็จของการอบรมนอกจาดจะขึ้นอยู่กับวิทยากรหรือเนื้อหาในการนาเสนอแล้วยังขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมใน การสอนในวันนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานที่เสียง แสงอุณหภูมิ บรรยากาศฯลฯเพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการสอนทั้งสิ้นลองคิดซิว่า การสอนของท่านจะเป็นเช่นไรเมื่อต้องไปสอนในห้องประชุมในโรงแรมที่อยู่ติดกับสระว่ายน้าแล้วห้องประชุมนั้นเป็นกระจกรอบ ด้านท่านจะสามารถดึงความสนใจผู้เข้าอบรมจากสระว่ายน้าได้อย่างไร เมื่อต้องสอนในบรรยากาศที่อาจจะควบคุมไม่ได้ เช่นในหอประชุมในต่างจังหวัดที่ห้องประชุมเป็นคอนกรีต ไม่มีผนังห้อง รถวิ่งผ่านไปมาได้ยินเสียงดังเป็นต้นประสิทธิภาพการสอนก็จะลดลงทางเดียวที่จะทาได้คือการแก้ปัญหา เฉพาะหน้า เช่นกรณีห้องประชุมที่อยู่ติดสระว่ายน้าก็ให้หาม่านมาปิดที่ผนังห้องให้มองไม่เห็นสระว่านย้าหรือในห้อง ประชุมที่ไม่มีผนัง ก็ให้หาบอร์ดที่ติดประกาศมาวางกั้นสายตาผู้เข้าอบรมเป็นต้น แสงสว่างมีส่วนสาคัญในการสร้างความน่าสนใจแก่ผู้เข้าอบรมในห้องประชุมบางแห่งมืดเกินไปทาให้ผู้เข้า อบรมง่วงจึงต้องพยายามเปิดม่านบางส่วนให้ไม่มืดเกินไปหรือเมื่อจาเป็นต้องฉายโปรเจคเตอร์ไม่ควรเปิดแสงสว่าง ทั้งหมด พยายามเปิดม่านและเปิดไฟในห้องอบรมไว้ ทาให้บรรยากาศไม่อึมครึมเกินไปและผู้เข้าอบรมบางคนจะหลับ ก่อนที่ผู้บรรยายจะบรรยายเสร็จ บางสถานที่เมื่อบรรยากาศห้องอบรมร้อนเกินไปเนื่องจากไม่มีแอร์คอนดิชั่นหรือแอร์เสียย่อมทาให้ผู้เข้า อบรมไม่มีสมาธิในการฟังที่ดี ทางแก้คือเปิดหน้าต่างให้หมดหรือเปลี่ยนไปห้องอื่นๆที่อากาศร้อนน้อยกว่า วิทยากรที่มี ประสบการณ์อาจใช้วิธีสอนโดยกิจกรรมโดยใช้นอกห้องเรียนเช่นใต้ร่มไม้เป็นต้น สาหรับเสียงที่ใช้ในห้องอบรมก็มีความสาคัญต่อความสาเร็จของอบรมเช่นเดียวกันถ้าเสียงวิทยากรเบา และไม่ชัดเจนย่อมทาให้ผู้เข้าอบรมเบื่อและไม่ใส่ใจจึงจาเป็นต้องปรับเครื่องเสียงให้ดังโดยการทดสอบก่อนที่จะเริ่มสอน โดยอาจจะตั้งเสียยงให้ดังกว่าเปกติจนกระทั่งสามารถได้ยินชัดทั่วทุกส่วนของห้องประชุมการที่ใช้เสียงดังทาให้ผู้เข้า อบรมถูกกระตุ้นด้วยเสียงที่ดังจึงต้องหันมาให้ความสนใจในการอบรม
  • 9. www.TrainingServ.com 9 ผมเคยไปบรรยายเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเพื่อการสมัครงานให้นักศึกษาปีสุดท้ายฟังของมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในภาคอีสานปรากฏว่ามีนักศึกษาทั้งหญิงและชายประมาณ400 คนและมีจอฉายโปรเจคเตอร์อยู่ด้านขวาด้าน เดียว(ทราบว่ามีงบประมาณจัดหาได้ด้านเดียวเท่านั้น) บรรยากาศในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีแต่เด็กวัยรุ่นจึงค่อนข้าง วุ่นวายและผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่สนใจจะฟังดังนั้นบรรยากาศในห้องประชุมจึงไม่พร้อมที่จะสอนผมจึงใช้วิธีลงไปบนพื้นห้อง จัดเก้าอี้ใหม่ให้เป็นวงกลมและวิทยากรยืนอยู่ตรงกลางบรรยายพร้อมมีกิจกรรมไปด้วยจึงสามารถแก้ไขบรรยากาศแบบ นี้ได้ รูปแบบการจัดอบรม การจัดอบรมแบ่งเป็นหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการอบรมตามกลุ่มเป้ าหมายที่เข้าอบรมตามข้อจากัดของ เวลาสถานที่และวิทยากรซึ้งผู้จัดการฝึกอบรมจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมดังนี้  แบบชั้นเรียน (Classroom) เป็นรูปแบบการจัดอบรมที่นิยมกันทั่วไปที่มีการจัดอบรมโดยให้ผู้เข้าอบรมนั่งเป็นแถวหันหน้าไปด้านหน้าห้องอบรม ในทิศทางเดียวกันและมีวิทยากร1คนหรือมากกว่าพูดหรือบรรยายหน้าห้องสภาพคล้ายห้องเรียนซึ่งรูปแบบการอบรมแบบนี้ เป็นที่นิยมเพราะมีข้อดีคือจัดการอบรมได้ง่ายสามารถรองรับผู้เข้าอบรมได้มากในเวลาเดียวกันและไม่ต้องใช้สถานที่ที่กว้าง หรือต้องแบ่งเป็นห้องอบรมย่อยๆ เหมือนการอบรมรูปแบบอื่นๆแต่มีข้อเสียคือการอบรมรูปแบบนี้มักจะขาด
  • 10. www.TrainingServ.com 10 ประสิทธิภาพเนื่องจากมีผู้เข้าอบรมจานวนมากที่วิทยากรไม่สามารถสร้างความคุ้นเคยกับผู้เข้าอบรมได้ทุกคนผู้เข้าเรียนที่นั่ง ข้างหลังอาจจะลาบากในการมองเห็นวิทยากรที่อยู่ข้างหน้าและไมสามารถกระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมทั้งหมดมีส่วนร่วมในการเรียน ได้ ซึ้งต่างจากการจัดอบรมแบบอื่นๆแต่ยังเป็นรูปแบบที่พบได้โดยทั่วไป  แบบกลุ่มย่อย (Group) เป็นรูปแบบการจัดอบรมที่แบ่งผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มย่อยๆจานวนผู้เข้าอบรมในแต่ละกลุ่มอยู่กลุ่มละ5-7คนเพราะว่า ผู้เข้าอบรมในแต่ละกลุ่มน้อยกว่า5คนย่อมไม่สามารถหาความหลากหลายได้ แต่ถ้าผู้เข้าอบรมเกิน7คนต่อกลุ่มทาให้อยากใน การควบคุมอาจจะบางคนไม่สนใจมีส่วนร่วมได้ โดยวัตถุประสงค์ของการแบ่งกลุ่มเพื่อให้แต่ละกลุ่มได้มีโอกาส แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่หลากหลายต่อหัวข้อที่วิทยากรกาหนดอาจเป็นเพียงความเห็นของกลุ่มแต่ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา หรือวิธีปฏิบัติงานที่ถูกต้องที่ทุกกลุ่มต้องยอมรับเสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มได้มีโอกาสนาเสนอเป็นการอบรมที่มุ่งให้ผู้เข้าอบรมมี ส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นจะได้ความคิดใหม่ๆนาไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ โดยวิทยากรต้องทาหน้าที่ควบคุมให้แต่ละ กลุ่มพูดคุยในเรื่องที่กาหนดและกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม  แบบสัมมนา (Seminar) วัตถุประสงค์ของการจัดอบรมแบบสัมมนาก็เพื่อที่จะระดมความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้คาตอบ หรือแนวทางที่ต้องการโดยการจัดสัมมนาจะกาหนดให้มีวิทยากรนาเสนอประเด็นสาคัญ2-3ท่านโดยมรผู้ดาเนินการการ สัมมนา 1 คนผู้ทาหน้าที่วิทยากรแต่ละท่านไม่จาเป็นต้องมีมุมมองเหมือนกันเมื่อวิทยากรนาเสนอเสร็จสิ้นทุกคนแล้ว จะเปิด โอกาสให้ผู้เข้าสัมมนาทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นอย่างอิสระภายในเวลาที่กาหนดและผู้ทาหน้าที่ดาเนินการสัมมนา จะสรุปประเด็นของแต่ละท่านตลอดจนควบคุมการแสดงความเห็นให้อยู่ในประเด็นซึ้งการสัมมนาที่ดีจะต้องมีการ สรุปและข้อเสนอแนะเพื่อหาทางออก(Solution)ในประเด็นปัญหาต่างๆเช่นสัมมนาเรื่องFTAกับผลกระทบผู้ผลิตพืชสวนของ ไทย (ประเด็นที่นาเสนอควรเป็นประเด็นที่ไม่กว้างเกินไปจนการสัมมนาหลากหลายจนหาทางออกไม่ได้)
  • 11. www.TrainingServ.com 11  จาลองเหตุการณ์ (Simulation) เป็นรูปแบบการจัดอบรมอีกประเภทหนึ่งที่มีวิธีการที่น่าสนใจมากทาให้ผู้เข้าอบรมไม่จาเจกับการอบรมแบบชั้นเรียน เหมือนที่เคยได้เรียนมาเพราะเป็นรูปแบบการอบรมที่จะใช้การจาลองบรรยากาศจริงในชั้นเรียนให้ผู้เข้าอบรมแสดงบทบาท ต่างๆ ตามที่กาหนดในสถานการณ์ จาลองเช่นการอบรมเรื่องความปลอดภัยจากไฟไหม้ ก็จาลองเหตุการณ์เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ใครต้องทาหน้าที่ดับไฟใครทาหน้าที่แจ้งเตือนเพื่อนร่วมงาน,ใครทาหน้าที่แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง,ใครทาหน้าที่นาเพื่อนร่วมงาน ไปทางหนีไฟฯลฯ นิยมใช้กันในการอบรมประเภทการขายโดยจาลองเหตุการณ์ว่าไปพบลูกค้าโดยผู้เข้าอบรมคนหนึ่งแสดงเป็น ลูกค้าอีกคนหนึ่งเป็นพนักงานขายเป็นต้นซึ้งรูปแบบการอบรมแบบนี้จะสนุกและไม่น่าเบื่อทุกคนจะกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ แต่ มีข้อจากัดคือรับจานวนผู้เข้าอบรมในแต่ละครั้งได้จากัดอยู่ที่20-30คนเท่านั้นและใช้เวลาการอบรมมากกว่าการบรรยาย ธรรมดา  การอบรมรูปแบบสถานี (Station) เป็นการอบรมที่สร้างบรรยากาศให้ผู้เข้าอบรมไม่เบื่อได้อย่างดีโดยฝ่ายผู้จัดอบรมจะแบ่งเนื้อหาหลักสูตรออกเป็น ส่วนย่อย4-5 ส่วนแล้วหาวิทยากรเชี่ยวชาญประจาแต่ละหัวข้อใช้ในห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่มีวิทยากรประจาอยู่ในแต่ละจุด ในห้องประชุม โดยแบ่งผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มย่อยๆ10-20คนหมุนเวียนกันไปเรียนกับวิทยากรแต่ละหัวข้อๆละ20-30นาทีเป็น รูปแบบการอบรมที่ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่มักจะชอบเพราะสนุกและเรียนรู้กับวิทยากรหลายคนแต่การจัดอบรมแบบนี้เป็นภาระ สาหรับผู้จัดอบรมมากเนื่องจากต้องหาสถานที่กว้างเป็นพิเศษต้องหาวิทยากรจานวนหลายคนและจัดแบ่งเนื้อหาออกเป็น ส่วนๆตัวอย่างเช่นการอบรมพนักงานร้านค้าปลีกก็สามารถแบ่งเป็น5สถานีได้แก่ สถานีการแต่งกายที่เหมาะสม สถานีการ ใช้เครื่องคิดเงินสถานีการทาความสะอาดสถานีการขายสินค้าสถานีการบริการลูกค้า เป็นต้น  การสาธิต (Demonstration) เป็นรูปแบบการอบรมที่สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าอบรมได้อย่างดีเพราะการสอนบางเรื่องไม่สามารถบรรยายให้เห็น ภาพได้ ใช้การสาธิตจากวัสดุจริงจะทาให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ได้ดีกว่า เช่นสาธิตการใช้เครื่องดับเพลิง สาธิตการใช้เครื่องตัดเหล็ก สาธิตการเปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่องโดยมีวิทยากรจะสาธิตให้ดูแล้วให้ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสได้ปฏิบัติจริงซึ่งในขณะที่ผู้เข้าอบรม ได้ลงมือปฏิบัติมักจะเกิดความผิดพลาดหรือไม่สมบูรณ์ ก็จะเป็นโอกาสที่ดีที่วิทยากรจะได้ให้คาแนะนาผู้เข้าอบรมใน
  • 12. www.TrainingServ.com 12 การแก้ปัญหาด้วยการสาธิตมักเป็นการอบรมที่ใช้เวลามากและใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผู้จัดอบรมพึงต้องระมัดระวังเรื่องเวลาที่ มักจะเกินกาหนดเสมอและหาสถานที่จัดอบรมที่เหมาะสม  การระดมสมอง(Brain Strom) เป็นรูปแบบการอบรมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหรือหาแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องโดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอ ความเห็นรูปแบบการจัดอบรมแบบนี้จะต้องมีการกาหนดหัวข้อมาหัวข้อหนึ่งที่ให้ผู้เข้าอบรมร่วมกันเสนอความเห็นเป็นหัวข้อที่ ไม่กว้างจนเกินไปเช่นระดมสมองการแก้ปัญหาที่จอดรถในหน่วยงาน,การระดมสมองเพื่อหาแนวทางปรับปรุงการจัดทา งบประมาณเป็นต้นมักจะทาในกลุ่มผู้เข้าอบรมกลุ่มเล็กๆจานวนไม่เกิน20คนโดยมีผู้นาการระดมสมองคนหนึ่งทาหน้าที่ กระตุ้นให้ทุกคนแสดงความเห็นและจดทุกความเห็นลงบนกระดานไม่ว่าจะเป็นความเห็นที่ดีหรือไม่ดีก็ตามประการสาคัญก็คือ พยายามให้ทุกคนมีส่วนในการแสดงความเห็นและพยายามอย่าให้มีใครคนใดคนหนึ่งนาเสนอมากเกินกว่าคนอื่นๆหลังจากได้ ความเห็นครบทุกคนแล้วก็ให้มีการออกเสียงให้คะแนนข้อเสนอที่มีความเป็นไปได้จากมากไปหาน้อยและในขั้นตอนสุดท้ายให้ ทาแผนปฏิบัติงาน(Action Plan)ของข้อเสนอที่ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะมีมากกว่า1หัวข้อก็ได้
  • 13. www.TrainingServ.com 13 การสอนงาน(On the Job Training) เรียกได้ว่าเป็นอีรูปแบบหนึ่งของการฝึกอบรมที่ใช้วิธีนี้ในการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานโดยเป็นรูปแบบการ ฝึกอบรมที่เน้นการพัฒนาบุคลากรแบบหนึ่งต่อหนึ่งโดยให้หัวหน้างานสอนงานผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่ปฏิบัติงานโดยมีการ แบ่งซอยงานออกเป็นส่วนย่อยๆและมีการปฏิบัติงานให้ดูและให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามจนกระทั่งสามารถทางานได้ ซึ่ง เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงมากเนื่องจากเป็นการสอนที่ใกล้ชิดกันและสามารถปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมแต่ละ บุคคลที่รูปแบบการสอนแบบอื่นทาไม่ได้ การสอนผ่านสื่อ (Computer Aid Instruction) ถ่ายการพัฒนาของเทคโนโลยีทาให้เกิดรูปแบบใหม่ของการสอนงานเป็นการสอนที่ผู้เรียนเรียนผ่านสื่อที่วิทยากรได้ จัดทาไว้แล้วไม่ว่าจะเป็นในรูปของวีดีโอเทปซีดีรอมแผ่นพลิก เอกสารคู่มือการเรียนฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสะดวกที่จะ เรียนรู้ในเวลาที่ผู้เรียนว่างหรือในสถานที่ที่เหมาะสม การเรียนผ่านอินเตอร์เน็ต (On Line Learning) การสอนผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีการสอนที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นโดยทั่วไปในการศึกษาระดับต่าง แต่ใน วงการฝึกอบรมก็นามาใช้เช่นเดียวกับที่มีการสอนผ่านทางอินเตอร์เน็ตเช่นหลักสูตรการสนทนาภาษาอังกฤษหลักสูตรการ พัฒนาหัวหน้างานแต่มีข้อจากัดที่ต้องคานึงถึงได้แก่การที่ผู้เรียนกับผู้สอนไม่ได้เจอกันทาให้ไม่สะดวกในการสอบถามปัญหา และการเรียนแบบนี้ผู้เรียนต้องมีความมุ่งมั่นมากพอจึงจะประสบความสาเร็จในการเรียนให้สาเร็จหลักสูตร หัวใจของการอบรมที่ทาให้ผู้เข้าอบรมสนใจอยู่ตลอดเวลาอยู่ที่การมีส่วนร่วมของผู้เข้าอบรมเป็นการสอนแบบสอง ทาง(TwoWay) ไม่ใช่เน้นแค่บรรยายทางเดียววิทยากรจานวนมากที่ไม่ประสบความสาเร็จในการสอนที่ไม่ได้รับความสนใจจาก ผู้เข้าอบรมเพราะเน้นการสอนแบบทางเดียวมากเกินไปถ้าต้องการให้การสอนมีประสิทธิภาพให้ผู้เข้าอบรมกระตือรือร้นที่จะ เรียนรู้จาเป็นต้องพัฒนาวีการสอนดังต่อไปนี้
  • 14. www.TrainingServ.com 14 ใช้กิจกรรมเข้าช่วย (Activity Based Learning) วิทยากรบางท่านประสบความสาเร็จในการสอนเพราะมีกิจกรรมต่างๆเข้ามาแทรกในการสอนอยู่ตลอดเวลาเป็น ระยะๆทาให้ผู้เข้าอบรมกระตือรือร้นและสนุกที่จะเรียนรู้ และสนุกที่จะเรียนรู้ โดยพัฒนากิจกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละหัวข้อของ เนื้อหาที่กาลังสอนจะช่วยให้ผู้เข้าอบรมประทับใจได้ โดยวิทยากรจะต้องเรียนรู้ในการนากิจกรรมต่างๆเช่นกิจกรรมปาเป้ าโดย ใช้ลูกดอกปาเป้ า แล้วแข่งกันระหว่างแต่ละทีมว่าทีมไหนสามารถปาเป้ าได้คะแนนมากกว่ากันเป็นการสอนเรื่องการวางแผน การทางานเป็นทีมการแบ่งงานกันทาและภาวะผู้นาของทีมเป็นต้น การฝึกอบรมคืออะไร การฝึกอบรมเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงความรู้ ทักษะและทัศนคติของผู้เข้ารับการอบรมให้เป็นไปตามเป้ าหมายที่ กาหนดไว้ จากคาจากัดความจะเห็นว่าการฝึกอบรมเป็นกระบวนการหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Processหมายถึงเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าจะทาให้การฝึกอบรมประสบความสาเร็จต้องทาให้ต่อเนื่องไมใช่ว่าพนักงานขาดทักษะในการบริการ ลูกค้าแล้วจัดอบรม1ครั้งจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริการได้ทันทีจะต้องเป็นการทาเป็นกระบวนการคือ
  • 15. www.TrainingServ.com 15 อาจจะมีการติดตามประเมินผลหลังฝึกอบรมและกลับไปปฏิบัติงานแล้วหรือจัดอบรมซ้าอีกครั้งถ้าการบริการลูกค้ายังไม่ดีพอ ซึ่งมีหลายหน่วยงานไม่มองว่าการฝึกอบรมเป็นกระบวนการจึงจัดอบรมแล้วคาดผลลัพธ์ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแต่ไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นการฝึกอบรมเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงความรู้ให้มีมากขึ้นทักษะ ความสามารถในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นและเปลี่ยนทัศนคติให้ถูต้องในทั้ง3 ด้านนี้การเปลี่ยนแปลงทัศนคติเป็นสิ่งทีทายาก ที่สุดแต่ก็ทาได้เช่นเดียวกันเช่นการฝึกอบรมเพื่อปรับทัศนคติให้ทางานเป็นทีมเป็นต้นแต่การอบรมที่ดีนั้นควรเป็นการอบรมที่ ถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรมของสังคมด้วยเช่นไม่ควรอบรมเรื่องการโกงเงินธนาคารหรืออบรมเรื่องเทคนิคการเล่นการ พนันให้ประสบความสาเร็จเป็นต้น การฝึกอบรมดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในองค์กรสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นราชการหรือองค์กรเอกชนเพราะทุกคนเชื่อ ว่าการฝึกอบรมจะช่วยให้บุคลากรมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น ให้บุคลากรมีทัศนคติในการทางานที่ดีสอดคล้อง กับวัฒนธรรมองค์กรแต่อย่างไรก็ตามมีเจ้าของธุรกิจจานวนมากมักจะมองว่าการอบรมเป็นการสิ้นเปลืองพนักงานที่ผ่านการ อบรมมาแล้วไม่สามารถช่วยให้บริษัทดีขึ้นซึ้งข้อเท็จจริงเป็นเพราะผู้บริหารท่านนั้นไม่ได้มองว่าการฝึกอบรมเป็นกระบวนการที่ ต่อเนื่องนั่นเอง ในวงการฝึกอบรมมีคาหนึ่งที่มักจะพูดถึงกันเสมอคือคาว่า SoftSkillและHard Skillทาให้คนจานวนมากสับสนว่ามัน คืออะไร คาว่าSoftSkill หมายถึงทักษะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานหลักของเขาได้แก่ การอบรมหลักสูตรSoftSkill เช่น หลักสูตรการทางานเป็นทีม,จิตวิทยาสาหรับหัวหน้างาน,จิตสานึกการทางานเพื่อคุณภาพฯลฯเป็นต้น ส่วน Hard Skillได้แก่ การอบรมเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในตาแหน่งนั้นๆได้อย่างดีเช่นอบรมทักษะการใช้เครื่องคิดเงินสาหรับพนักงานขายหรือ อบรม การจัดทาโครงการและงบประมาณสาหรับเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนถือได้ว่าเป็น HardSkill
  • 16. www.TrainingServ.com 16 วงจรการฝึกอบรม การฝึกอบรมมีขั้นตอนต่างๆที่วิทยากรควรจะทราบ6ขั้นตอนตามแผนผังวงจรการฝึกอบรมโดยเริ่มตั้งแต่การหา ความจาเป็นในการอบรมจนสิ้นสุดที่การประเมินผลถ้าต้องการให้การฝึกอบรมได้ประสิทธิภาพควรจะต้องจัดทาให้ครบทั้ง6 ขั้นตอน ซึ่งมีหลายหน่วยงานมีการจัดอบรมโดยไม่มีการประเมินผลการอบรมหรือหน่วยงานจานวนมากขาดการหาความ จาเป็นในการอบรมก่อนจะทาแผนฝึกอบรมทาให้การฝึกอบรมที่จัดขึ้นไม่ตรงตามความต้องการของหน่วยงานจึงเสมือนว่าการ ฝึกอบรมนั้นเสียเปล่า การหาความ จาเป็นในการ อบรม เตรียมการ ฝึกอบรม จัดอบรม การจัดทา โครงการ ฝึกอบรม ประเมินผล การจัดทา แผนการ ฝึกอบรม
  • 17. www.TrainingServ.com 17 การหาความจาเป็นในการอบรม (Training Needs) การหาความจาเป็นในการอบรมได้แก่ การสารวจรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อเป็นแนวทางในการจัดอบรมให้ได้อย่างมี คุณภาพ ตรงกับเป้ าหมายขององค์กรซึ่งมักจะจัดทาปีละหนึ่งครั้งก่อนการจัดทางบประมาณของหน่วยงานเพื่อว่าเมื่อการ จัดทาแผนฝึกอบรมของปีต่อไปเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถคานวณค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการอบรมปีหน้าใส่ในแผนงาน งบประมาณได้ทันที วิธีหาความจาเป็นในการอบรมทาได้หลายวิธีดังนี้  การสัมภาษณ์  แบบสอบถาม  การสังเกตุ  เอกสารที่เกี่ยวข้อง วิธีเริ่มจัดทาความจาเป็นในการอบรมมักจะเริ่มต้นด้วยการสร้างแบบสอบถามขึ้นมาถึงสิ่งที่หน่วยงานเห็นว่า จาเป็นต้องพัฒนาบุคลากรในตาแหน่งใดบ้างและต้องการพัฒนาด้านไหนโดยการออกแบบสอบถามส่งให้หัวหน้างานหรือ ผู้จัดการของแต่ละแผนกกรอกส่งกลับคืนมาโดยทาแบบสอบถามให้ง่ายสาหรับหัวหน้างานในการที่ใช้ เมื่อได้กลับคืนมาแล้วก็ รวบรวมจัดแบ่งออกเป็นการอบรมประเภทHardSkillและ SoftSkillบางหน่วยงานมีความต้องการที่เหมือนกันเช่นต้องการ อบรมทักษะในการสื่อสารก็สามารถนาเอามารวบรวมอยู่ในหลักสูตรเดียวกันได้เป็นต้น วิธีการสัมภาษณ์ วิธีหาความจาเป็นวิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมทาหน้าที่ไปสัมภาษณ์ หัวหน้างานผู้จัดการ หรือผู้บริหารองค์กรถึงความความเห็นต่างๆเกี่ยวกับเป้ าหมายในปีหน้าขององค์กรสิ่งที่บุคลากรจะต้องพัฒนาเพื่อให้องค์กร ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ผู้บริหารต้องการสัมภาษณ์ถึงปัญหาในการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นและผู้บริหารเห็นว่าจะต้องแก้ไขเช่น ปัญหาความขัดแย้งระหว่างแผนก,ปัญหาการปฏิบัติงานที่ไม่คานึงถึงคุณภาพทาให้มีสินค้าคืนมาเป็นจานวนมากสิ่งเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมรวบรวมและสรุปถึงความต้องการการฝึกอบรมจากการสัมภาษณ์ แล้วส่งให้ผู้บริหารเห็นชอบเป็นลายลักษณ์ อักษรอีกครั้งก่อนจะนาไปเป็นแนวทางในการจัดทาแผนการสอนต่อไป
  • 19. www.TrainingServ.com 19 ตัวอย่างแบบสอบถาม ชื่อผู้ตอบ ................................................................ หน่วยงาน............................................................ ตาแหน่ง ................................................................... เบอร์ที่ติดต่อได้ ................................................... กรุณากรอกแบบสอบถามให้ครบทุกข้อ 1) ท่านมีบุคลากรที่ท่านรับผิดชอบ จานวน........... คน 2) ท่านได้รับผิดชอบตาแหน่งปัจจุบันมาแล้ว.......... ปี ........ เดือน 3) ความเห็นของท่านท่านพอใจกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานมากน้อยเพียงใด ก)มากที่สุด ข)มาก ค) พอใช้ ง) ไม่พอใจ 4) ขอให้ท่านเรียงลาดับจากมากไปหาน้อยในสิ่งที่ท่านเห็นว่าควรให้ความสาคัญในการพัฒนาบุคลากรใน หน่วยงานท่าน (1คือมากที่สุดแล้วเรียงลาดับไป) __) การตรงต่อเวลา __ ) ความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย __ ) ความปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร __ ) การซื่อสัตย์สุจริต __ ) ความรู้ความเข้าใจในงานที่รับผิดชอบ __ ) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ __ ) ความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า __ ) การทางานอย่างไม่ย่อท้อ __ ) การทางานเป็นทีม __ ) ความภักดีกับองค์กร
  • 20. www.TrainingServ.com 20 5) ในระยะเวลา5ปีข้างหน้าท่านเห็นว่าควรพัฒนาบุคลากรของท่านในด้านใดมากที่สุด ก)............................................................ ข)........................................................... ค)........................................................... 6) ตาแหน่งใดที่ท่านคิดว่าควรให้ความสาคัญเร่งด่วนในการพัฒนา ก)............................................................ ข)........................................................... ค)........................................................... 7) ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรในองค์กรของเรา ...................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)................................................... วันที่ .................................
  • 21. www.TrainingServ.com 21 วิธีการสังเกต ผู้ทาหน้าที่จัดทาการหาความจาเป็นในการฝึกอบรมอาจจะใช้วิธีการสังเกตการณ์ปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กร โดยสังเกตพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยและน่าจะนาไปปรับปรุงโดยการฝึกอบรมเช่นพฤติกรรมการบริการลูกค้าที่ไม่ถูกต้อง,ความ ผิดพลาดในการบันทึกเอกสารตามเอกสาร ISO,การคานวณชิ้นส่วนการผลิตที่ผิดพลาดเป็นต้นสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ใน การนาเอาไปจัดทาแผนการอบรมในปีต่อไปอย่างดีแต่สิ่งทีพึงระวังคือการใช้ทัศนคติส่วนตัวมากเกินไปแทนที่จะใช้ข้อมูลจาก การสังเกตที่แท้จริง ศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เราสามารถใช้เอกสารต่างๆในองค์กรเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทาความจาเป็นในการฝึกอบรมได้ เช่นเอกสารของ การประเมินพนักงานรายบุคคลซึ่งจะระบุถึงปัญหาที่พนักงานควรจะแก้ไขหรือเอกสารการร้องเรียนจากลูกค้าหรือเอกสารการ แก้ไขที่ไม่เป็นไปตามISO (ที่เรียกว่าCAR) หรือเอกสารวิสัยทัศน์ขององค์กรว่าผลการปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องของ วิสัยทัศน์ที่กาหนดไว้หรือไม่ คุณสมบัติของวิทยากร การเป็นวิทยากรใครก็เป็นได้ เป็นทักษะที่ฝึกได้เหมือนกับคนที่ขี่จักรยานไม่เป็นเมื่อได้รับการสอนและหมั่น ฝึกฝนก็เป็นได้ เพียงแต่บางคนมีพรสวรรค์จะใช้เวลาน้อยกว่าคนที่ไม่มีพรสวรรค์เท่านั้นเองวิทยากรเป็นอาชีพที่คนทาหน้าที่นี้ จะภูมิใจเพราะเป็นอาชีพที่ช่วยให้คนดีขึ้นเก่งขึ้นเป็นอาชีพที่นอกจากช่วยให้วิทยากรมีรายได้แล้วยังช่วยสงเคราะห์คนอีกนับว่า เป็นอาชีพที่ดีอาชีพหนึ่ง
  • 22. www.TrainingServ.com 22 อย่างไรก็ดีการเป็นวิทยากรต้องการคนที่มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้เพื่อที่จะประสบความสาเร็จในอาชีพถ้าใครยัง ขาดลักษณะไหนก็ควรหาทางปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมให้ได้ครบตามที่ควรเป็นได้แก่ ชอบการเรียนรู้ วิทยากรก็เป็นบุคคลที่ทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ จึงจาเป็นต้องเป็นผู้ชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่สิ่งที่ไม่เคยรู้ เพื่อจะได้นาไปสอนคนอีกจานวนมากได้ และความรู้เป็นสิ่งไม่หยุดนิ่งฉะนั้นจึงต้องการคนที่ขยันอยากจะเรียนรู้โดยการอ่าน หนังสือ, เรียนรู้จากอินเตอร์เน็ต,จากการเข้าอบรมจากวิทยากรท่านอื่นๆ ยิ่งเรียนรู้มากยิ่งได้ประโยชน์ในการถ่ายทอดมาก มีทักษะในการนาเสนอ คนที่เป็นวิทยากรจาเป็นต้องมีทักษะที่ดีในการนาเสนอที่ดีที่สามารถสร้างความสนใจแกผู้ฟังได้ ต้องสามารถพูด ภาษาไทยได้คล่องมีเทคนิคการนาเสนอที่หลากหลายสามารถจูงใจผู้ฟังได้ และควรจะเป็นผู้มีอารมณ์ขันด้วยก็จะช่วยให้การ นาเสนอน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เนื่องจากการเป็นวิทยากรเป็นงานที่จาเป็นต้องพบคนจานวนมากไม่ใช่งานที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จาเป็นต้องมี มนุษย์สัมพันธ์กับผู้อื่นเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้คนรอบข้างทั้งความสามารถในการพูดในการฟังและทัศนคติที่ดีต่อคนที่ เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานจัดอบรมผู้เข้าอบรมที่หลากหลายผู้บริหารโครงการและทีมงานซึ่งเป็นปัจจัยความสาเร็จของ การเป็นวิทยากร มีความเชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่ง วิทยากรที่เก่งควรเป็นความรู้ลึกในสาขาที่จะสอนเช่นในสาขาการตลาดหรือในสาขาการบริหารงานบุคคลควรจะ เป็นคนที่เรียนมาทางด้านนี้และมีประสบการณ์ในการทางานในสาขานั้นๆจะเป็นวิทยากรที่ไม่มีประสบการณ์ในการทางานมา ก่อนและไม่จาเป็นต้องรู้ทุกเรื่องควรรู้และเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องเท่านั้น
  • 23. www.TrainingServ.com 23 สามารถปรับตัวได้ดี เนื่องจากวิทยากรเป็นงานที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่หลากหลายเจอในสิ่งที่ไม่คาดหมายมาก่อนเช่นไปจัดอบรมให้ คนบางกลุ่มที่ไม่สนใจเรียน,สถานที่อบรมมีปัญหา,การถูกเปลี่ยนแปลงกาหนดการกะทันหันซึ่งเป็นสิ่งที่วิทยากรจะต้องพร้อมที่ จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เสมอไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น การจัดทาแผนการสอน เมื่อได้จัดทาเนื้อหาเสร็จแล้วก็ถึงเวลาการจัดทาแผนการสอนหรือที่เรียกว่า LessonPlanเพื่อเป็น แนวทางในการ สอนที่จะเกิดขึ้นต่อไปโดยดาเนินการดังนี้ 1. ศึกษารายละเอียดของเนื้อหาอย่างรอบคอบโดยพิจารณาว่าเนื้อหานั้นมีวัตถุประสงค์อย่างไรและจะ สามารถทาให้เหมาะสมกับเวลาที่ใช้สอนอย่างไร 2. ถ้าเกิดกรณีว่าเนื้อหามีมากเกินกว่าเวลาที่สอนให้พิจารณาเลือกหัวข้อสาคัญมาสอนอย่าพยายามสอนทุกเรื่อง ในเวลาจากัดเพราะผู้เรียนจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาจากัดให้ยึดหลักว่า “ถ้าสอนมากผู้เรียนจะได้น้อย”มุ่งให้ความสนใจ กับหัวข้อที่สาคัญที่สุดและเน้นตรงนั้นหรือหาทางเพิ่มเวลาสอนเพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหา 3. การเตรียมแผนการสอนให้แบ่งเป็น3 ส่วนประกอบด้วยส่วนที่หนึ่ง เรียกว่าบทนา ส่วนที่สอง เรียกว่าเนื้อหา ส่วนที่สามเรียกว่าบทสรุป ส่วนแรกที่เรียกว่าบทนาสิ่งที่ต้องเตรียมก็คือประโยคที่จะสร้างความสนใจความตื่นตัวให้กับผู้ฟัง เมื่อจะเริ่มสอนโดยใช้เทคนิคที่สร้างความสนใจ
  • 24. www.TrainingServ.com 24 เมื่อจะเริ่มสอน การเตรียมการก่อนที่จะสอน  วิทยากรจาเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการสอนในวันถัดไปเพราะว่าวิทยากรที่พักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อทาหน้าที่สอนจะไม่สามารถสอนได้ดีสมองไม่แจ่มใสพอจะทาให้การสอนสนุกและน่าสนใจบางครั้งอาจจะลืมบางหัวข้อ หรือลืมตัวอย่างดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ ดังนั้นการนอนให้พอจึงเป็นพื้นฐานของการเป็นผู้นาเสนอที่ดี  สิ่งที่สาคัญเมื่อเตรียมการสอนที่วิทยากรหลายคนอาจจะไมให้ความสาคัญคือการซ้อมล่วงหน้าเพราะการ ซ้อมนอกจากจะทาให้เรามีความเชื่อมั่นในการนาเสนอแล้วการนาเสนอไหลลื่นไม่ติดขัดโดยเฉพาะวิทยากรมือใหม่ขาด ประสบการณ์ จาเป็นต้องซ้อมอย่างเต็มที่โดยพยายามซ้อมให้เหมือนจริงหน้ากระจกเหมือนนักแสดงที่จะต้องไปแสดงในวันแรก  วิเคราะห์ว่าผู้ฟังเป็นใครการสอนที่ดีต้องรู้จักและเข้าใจผู้ฟังเพื่อจะนาเสนอให้ตรงความต้องการเขาการสอนก็ เหมือนงานบริการประเภทหนึ่งจาเป็นต้องสร้างความพึงพอใจให้ผู้เรียนผู้สอนต้องทาหน้าที่สอนที่วิเคราะห์ว่าผู้เรียนเป็นใคร อายุเท่าไรประสบการณ์การทางานกี่ปี ตาแหน่งอะไรและที่สาคัญเคยเรียนวิชานี้มาก่อนหรือไม่เพราะถ้าผู้เรียนเคยเรียนวิชานี้ มาก่อนผู้สอนจาเป็นต้องปรับเนื้อหาให้แตกต่างน่าสนใจขึ้นหรือเพิ่มเนื้อหาในส่วนที่ผู้เรียนยังไม่เคยเรียน  ในการเตรียมเนื้อหาอย่าลืมเราไม่สามารถสอนให้คนรู้ทุกเรื่องได้ในเวลาจากัดดังนั้นจึงต้องมีหัวข้อหลักที่นา สนออย่างน้อย1 หัวข้อเสมออย่าสอนโดยมีหัวข้อมากมายและไม่มีหัวข้อหลักคนจะไม่รู้ว่ากาลังสอนเรื่องอะไรเช่นบรรยาย เกี่ยวกับรถยนต์ผู้บรรยายพูดเกี่ยวกับประเภทรถยนต์เครื่องยนต์ระบบช่วงล่างห้ามล้อการตกแต่งรถยนต์ในเวลา3ชั่วโมง ผู้ฟังจะจับไม่ได้ว่าผู้พูดต้องการนาเสนออะไรดังนั้นควรเลือกเฉพาะหัวข้อหลักมานาเสนอเช่นนาเสนอเรื่องระบบช่วงล่าง รถยนต์อาจจะเพิ่มส่วนระบบเบรกเข้ามาเสริมก็จะทาให้ผู้ฟังเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
  • 25. www.TrainingServ.com 25  ในการเตรียมเนื้อหาจาเป็นต้องคานึงถึงสื่ออุปกรณ์ ที่ต้องใช้ประกอบในการสอนด้วยว่าในขั้นตอนนี้จะต้องใช้ สื่อประเภทใด เช่นเพาเวอร์พอยต์,สื่อวีดีโอคลิป,ฟลิปชาร์ต,อุปกรณ์จาลอง,อุปกรณ์จริงในการบรรยายจะต้องใช้สื่อพวกนี้ อย่างไรบ้างให้เตรียมเอาไว้ด้วย  สิ่งที่จะรู้ก่อนทาเนื้อหาประการหนึ่งคือเนื้อหาของแต่ละครั้งที่สอนจาเป็นต้องปรับตามกลุ่มผู้ฟังเสมอไม่ใช่ เตรียมเนื้อหาครั้งเดียวแล้วใช้สอนทุกครั้งเช่นถ้ากลุ่มผู้เรียนเป็นพนักงานใหม่ย่อมต้องการการเรียนรู้แตกต่างจากผู้จัดการที่มี ประสบการณ์ในการทางานมาก่อนหรือการสอนวัยรุ่นย่อมต้องการเรียนรู้แตกต่างกับผู้อาวุโสเป็นต้น ประเภทผู้เข้าอบรม  กรณีบุคคลที่มั่นใจในตัวเองมากให้ใช้เทคนิคยอและให้เกียรติว่าวันนี้เราได้รับเกียรติจากผู้เข้าอบรมที่มี ประสบการณ์สูงในสิ่งที่จะบรรยายให้หันไปถามความเห็นเขาเป็นระยะๆทาให้เขารู้สึกว่าเขาได้รับเกียรติและจะมีส่วนร่วมเป็น ผู้สนับสนุนการสอนของเรา  ในบางกรณีจะใช้เทคนิคใช้ตัวอย่างที่เป็นโจทย์ที่ยากแล้วบอกว่าโจทย์นี้เป็นโจทย์ธรรมดาที่ใครก็ทาได้ ทาให้ผู้ ที่มั่นใจว่าตัวเองเก่งหรือผู้มีความมั่นใจตัวเองสูงรู้สึกว่าเขาคงจะไม่เก่งจริงก็อาจจะมาสนใจการสอนได้  เมื่อเจอผู้ฟังที่พูดมากพูดแทรกผู้บรรยายบ่อยครั้งที่จะเจอคนประเภทนี้ ก็มักจะพูดแสดงความเห็นพูดอย่าง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบรรยายแนวทางที่ดีก็คือให้เน้นย้ากติกาในการแสดงความเห็นเช่นบอกว่า “ เนื่องจากมีผู้เข้าอบรม จานวนมากเราจาเป็นต้องตกลงกติกาในการแสดงความเห็นสักเล็กน้อยกรุณาแสดงความเห็นคนละไม่เกิน5นาทีเพื่อให้ โอกาสเพื่อนๆได้แสดงความเห็นบ้างนะครับ”
  • 26. www.TrainingServ.com 26 จิตวิทยาการสอนของผู้ใหญ่ ปกติการฝึกอบรมเป็นการสอนที่แตกต่างจากการศึกษาทั่วไปที่การศึกษาทั่วไปเป็นการสอนสาหรับเยาวชน แต่การฝึกอบรมเป็นการสอนที่ผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นวัยทางานตั้งแต่ผู้จบใหม่จนถึงบุคคลอายุ60 - 70 ปี ดังนั้นผู้สอนจึง จาเป็นต้องเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ เพื่อช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผู้ใหญ่ชอบที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ใกล้ตัวสิ่งที่เขาเกี่ยวข้องมีประสบการณ์ร่วมมากกว่าเรื่องที่เป็นทฤษฎีหรือเป็น สิ่งที่เป็นนามธรรมเหมือนที่สอนในมหาวิทยาลัยเนื่องจากผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ผ่านการเรียนในระบบมาแล้วเมื่อมีประสบการณ์ การทางานมาเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงมักจะสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพหรือประสบการณ์ของเขาเช่น พนักงานธนาคารย่อมสนใจเรียนรู้เทคนิคการบริหารเงินกู้ในรูปแบบกรณีตัวอย่างมากกว่าจะเรียนรู้แต่ทฤษฎีเท่านั้น ผู้ใหญ่ต้องการการมีส่วนร่วมในการเรียนมากกว่าเยาวชนเพราะผู้ใหญ่เมื่อผ่านประสบการณ์การทางานมาระยะหนึ่ง ย่อมเริ่มที่จะมีความมั่นใจขึ้นอยากจะแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ ถ้าวิทยากรสามารถ กระตุ้นให้เขามีส่วนร่วมในการแสดง ความเห็นจะทาให้เขามีพึงพอใจการฝึกอบรมครั้งนั้นมากกว่าที่เขาต้องนิ่งฟังอย่างเดียว สิ่งที่ดีที่สุดที่จะสร้างความสนใจให้กับผู้เรียนที่เป็นผู้ใหญ่คือการสอนในเรื่องที่เขาสนใจไม่ใช่สอนในสิ่งที่หน่วยงาน อยากให้เขาเรียนหรือสิ่งที่วิทยากรอยากสอนดังนั้นต้องเลือกเรื่องที่สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าอบรมได้เสียก่อนหรือพยายามปรับ เรื่องที่จะสอนให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ฟัง
  • 27. www.TrainingServ.com 27 พยายามปรับเนื้อหาให้สัมพันธ์กับหน้าที่การงานของผู้เข้าอบรมจะสร้างความสนใจกับผู้เข้าอบรมเป็นผู้ใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั่งยกตัวอย่างหรือกรณีศึกษาให้เกี่ยวพันธ์กับผู้เข้าอบรมเช่นผู้เข้าอบรมเป็นกลุ่มหัวหน้างานจากธุรกิจค้าปลีกแม้คุณสอน วิชาทางด้านการสื่อสารก็ต้องพยายามหาตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับค้าปลีกมาใช้ จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น  เริ่มต้นด้วยคาถาม (ในที่นี้ใครคิดว่าตัวเองรวยบ้างครับ) (การทาบุญแล้วไม่กรวดน้าจะไม่ได้บุญอย่างที่ตั้งใจใช่ไหม) (ถึงเวลาหรือยังที่พวกเราจะมีโรงไฟฟ้ าพลังนิวเครียร์)  เริ่มต้นด้วยการนาสถานการณ์ปัจจุบันมาเกริ่นนา (เมื่อเช้านี้กว่าจะมาถึงต้องฝ่ าการจราจรมาปกติใช้เวลาแค่30นาที แต่วันนี้พิเศษ ใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่ง) (เมื่อคืนได้ดูละคร___ไหมครับเป็นอย่างไรบ้าง) (ยินดีต้อนรับทุกท่านที่สามารถรอดตัวไม่ถูกน้าท่วมและมาถึงที่นี่จนได้)  เริ่มต้นด้วยอารมณ์ขัน (พวกเรารู้ไหมที่ไหนในประเทศไทยที่มีพระนอนมากที่สุด? คาตอบ – โรงพยาบาลสงฆ์) (วันนี้มีความยินดีที่ได้มาพบพวกเดียวกันพวกเราเป็นพวกที่ขาดความรักและทาดีไม่มีคนเห็น แต่ทาชั่วทีไรถูกจับได้ทุกที)  เริ่มต้นด้วยกลอนหรือคาคม ของบุคคลสาคัญ (ยามศึกเรารบยามสงบคือการปฏิวัติ) (การเรียนแม้เหนื่อยยากย่อมลาบากอย่าท้อแท้ สุดท้ายที่รอคอยคืออนาคตอันงดงาม) (การลงมือทาสาคัญกว่าการพูด)